Favorite
ใครมีที่ดินเป็นของตัวเอง นี่บอกเลยว่ายิ่งกว่ามีทองอีกนะ เพราะราคาตอนนี้ขนาดชานเมืองหรือปริมณฑล ยังอัพค่าตัวกันเป็นแสน ขณะที่ในเมืองที่ดินให้ซื้อไม่ต้องพูดถึง นอกจากราคาแพงหูดับตับไหม้แล้ว ยังเหลือน้อยลงอีกด้วย แม้แต่พื้นที่ให้เช่า ก็ทยอยหมดเร็วขึ้นทุกที
รู้ไหมว่า? คอนโดที่อยู่บนที่ดินที่ถูกซื้อกับถูกเช่า ในแวดวงอสังหานั้นมีคำจำกัดความคำพวกนี้อยู่ด้วยนะ แต่จะเรียกว่าอะไร เหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหน ต้องไปอ่านดูแล้วจะรู้เลย!!!
ขอบคุณภาพ : rawpixel
คอนโดแบบ Freehold คำนี้ใช้สำหรับ โครงการที่มี Developer เป็นเจ้าของพื้นที่นั้นๆ พูดง่ายๆ ว่าซื้อที่ดินแบบสิทธิขาด ซึ่งสามารถทำการซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้ซื้อได้
ข้อดี >>> หลักๆ ที่เห็นแบบจับต้องได้คือ ผู้ซื้อได้หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช.2) ที่ออกโดยกรมที่ดิน ประมาณว่าเราเป็นเจ้าของที่ดิน และขนาดของห้องที่ซื้อเอาไว้นั่นเอง อีกหนึ่งข้อดีที่น่าสนใจไม่น้อย ได้แก่ทรัพย์สินที่เราครอบครองในตอนนี้ อนาคตข้างหน้าจะมีมูลค่าเพิ่ม จนสร้างกำไรให้แก่เราได้ไม่มากก็น้อย (ถ้าเลือกทำเลดีๆ นะ) จะขายต่อหรือเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ขอบคุณภาพ : rawpixel
ข้อเสีย >>> ถ้านิติบุคคลไม่ดูแลอาคารและส่วนกลางต่างๆ จนเกิดความทรุดโทรมไม่น่าอยู่ จากที่จะมีมูลค่าเพิ่มก็อาจจะลดลงจนขายไม่ออกก็เป็นได้ และตามกฎหมายแล้วชาวต่างชาติจะซื้อห้องของโครงการนั้นๆ ได้ แค่ 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด
คอนโดแบบ Leasehold โครงการอยู่บนที่ดินที่เช่ามา Developer ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ตัวผู้ซื้อก็จะได้เป็นหนังสือสัญญาเช่าแทน พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของภาครัฐ ตระกูลเก่าแก่ทั้งหลาย หรือแม้แต่บนที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เรื่องระยะเวลาการเช่า จะอยู่ที่ประมาณ 30 ปี ครบกำหนดก็อาจทำสัญญาเช่าต่อหรือคืนที่ให้เจ้าของกลับไป
ข้อดี >>> มักจะอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ย่าน CBD เดินทางสบายแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีความอุดมสมบูรณ์ และได้ราคาที่ย่อมเยา เนื่องจากถูกกว่าแบบ Freehold 30-40% และชาวต่างชาติจะมีไว้ในมือกี่ห้องก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนห้อง
ข้อเสีย >>> ไม่สามารถจดทะเบียนอาคารและมีหนังสือกรรมสิทธิ์ได้ แถมจะขายต่อหรือเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังต่อจากเราก็ทำไม่ได้อีกต่างหาก ทำได้เพียงปล่อยให้เช่าอย่างเดียว และเมื่อครบสัญญามูลค่าก็จะกลายเป็นศูนย์
คราวนี้ก็ต้องเลือกดูเอาว่า วัตถุประสงค์หลักของการอยู่คอนโดคืออะไร ถ้าอยากมีทรัพย์สินเก็บไว้เป็นของตัวเองก็เลือกแบบ Freehold แต่ถ้าอยากได้ชีวิตที่สะดวกสบายใจกลางกรุง และมาในราคาที่รับมือไหว ก็ต้องคอนโดแบบ Leasehold ซึ่งทั้งสองแบบก็มีให้เราเลือกหลากหลายโครงการกันเลยทีเดียว
รีวิววิเคราะห์ได้ดีมากเลยครับ
รีวิวอ่านง่าย รูปภาพสวยครับ
ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนบทความดีๆนี้ให้อ่านน่ะคะ
อันนี้รีวิวหรือวิทยานิพนธ์คะ ละเอียดจริงๆ สุดยอดเลยค่ะ