Favorite
ถ้าใครเคยหาซื้อหรือศึกษาข้อมูลคอนโดในยุคนี้ คุณจะเห็นว่า คอนโดแทบทุกที่ล้วนชูจุดขาย ด้วยคำว่า ใกล้รถไฟฟ้า กันแทบทั้งนั้น แต่เชื่อไหมครับว่า คำว่า ใกล้รถไฟฟ้า ของคอนโดแต่ละที่ ตีความหมายได้กว้างมากๆ ห่าง 1-2 กิโลเมตร สมัยนี้ก็ยังใช้คำว่าใกล้ได้ หรือ ไม่เค้าก็ใช้คำโฆษณาว่า 5 นาทีจากรถไฟฟ้าแทน จริงๆ 5 นาทีหลายๆที่ นี่คือ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ในสภาวะที่รถไม่ติดด้วยนะครับ
จากที่ผมไปดูมา ผมพบว่า กว่า 80% ที่โฆษณาว่าใกล้รถไฟฟ้า มักจะอยู่ห่างรถไฟฟ้าเกิน 300 เมตรขึ้นไปทั้งนั้น ซึ่งจริงๆแล้ว ในประเทศไทยที่มีทั้งหน้าร้อนที่ร้อนสุดๆ หรือ หน้าฝนที่ยาวนาน ผมคิดว่า คำว่าใกล้รถไฟฟ้า ยังไงก็ต้องไม่เกิน 100 เมตรนะครับ เพราะไกลกว่านี้ เดินกันเหนื่อยเลยครับ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่อุตส่าห์แต่งหน้าทำผมสวยๆ เพื่อออกไปทำงาน เดินไกลแบบนี้ผมว่าไม่ไหวนะครับ
พอดีวันก่อนได้มีโอกาสเข้าไปชมคอนโดนึงย่านรัชดาฯ มาครับ ต้องบอกว่า ย่านรัชดาฯในปัจจุบัน ถือเป็นย่านที่คนวัยทำงานหลายๆคน ฝันจะเป็นเจ้าของคอนโดย่านนี้กันทั้งนั้น เพราะตอนนี้รัชดาฯ มีครบแทบทุกอย่างเลย ทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ สำนักงานของบริษัทดังๆ ร้านอาหาร โรงแรมหรูๆ รถไฟฟ้า ฯลฯ เอาเป็นว่า คือ ใครๆก็อยากมาอยู่ครับ ไม่ใช่แค่คนไทยนะครับ ต่างชาติมาอยู่แถวนี้กันเยอะมากๆ เพราะความครบครันทุกๆอย่างนี่แหละครับ
เอาจริงๆคอนโดที่เรียกได้ว่าติดรถไฟฟ้าย่านรัชดาฯนี่ นับกันจริงจังจริงๆ มีแค่ไม่กี่โครงการนะครับ เพราะที่ดินย่านนี้แพงมาก และยังเป็นที่ดินของการรถไฟไปซะครึ่งนึงอีกต่างหาก แต่ล่าสุดโครงการที่ผมได้มีโอกาสไปดูมา
ถือว่าเซอร์ไพรส์กับโลเคชั่นมากๆ ไม่รู้ไปซื้อที่ดินแปลงนี้มาได้ยังไง เพราะเรียกได้ว่า ใกล้รถไฟฟ้าจริงๆ ได้แบบเต็มปากเต็มคำ คือ พูดง่ายๆว่า ออกมาจากรถไฟฟ้า แหงนหน้ามาเจอคอนโดได้เลย ของดีแบบนี้ นานๆมาที ผมเลยไม่พลาดที่จะนำข้อมูลมาฝากกันครับ
The Teak รัชดา 19
อยู่ติดกับ MRT สถานีรัชดาฯ เพียง 80 ก้าว หรือประมาณ 80 เมตรเท่านั้น เชื่อมต่อไปยังแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ได้ทั่วกรุงเทพฯ ไม่ใช่สุดแค่ทำเลนะครับ ดีไซน์เค้าก็จัดให้แบบสุดๆด้วย ครบเครื่องขนาดนี้ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยๆ ครับ
ตัวโครงการเป็นคอนโดแบบ Low Rise จากบริษัท The Teak Development ซึ่งทำคอนโดเท่ๆมาหลายโครงการแล้ว และทุกโครงการก็ขายดีมากๆ ใครอยากรู้ว่าทำที่ไหนมาบ้างลองกูเกิ้ลกันดูได้นะครับ The Teak รัชดา 19 เป็นอาคารสูง 7 ชั้น จำนวน 78 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ 40% ตัวโครงการตกแต่งในสไตล์ Contemporary Art เล่นโทนสีน้ำตาลตัดกับสีทอง ให้ความรู้สึกร่มรื่น อบอุ่น ได้กลิ่นอายความเรียบหรู แน่นอนว่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะโดดเด่นในย่านรัชดาแน่นอนครับ
โดยมีทีเด็ดอยู่ทุกยูนิตออกแบบให้มีความสูงเพดานถึง 2.7 เมตรเลยทีเดียว เทียบเท่าคอนโดแบบ Hi-Rise เลยครับ ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยๆ ครับสำหรับโครงการ Low Rise ที่ใจป้ำให้เพดานสูงแบบจัดเต็มขนาดนี้
สำหรับโลเคชั่นตัวโครงการจะตั้งอยู่ ปากซอยรัชดาภิเษก 19 จุดเด่นอยู่ตรงตัวโครงการอยู่ ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานี รัชดาแค่ 80 เมตร ทั้งประตู 1 และ 2 เรียกได้ว่าหมดห่วงเรื่องการเดินทางไปเลย
อีกหนึ่งจุดเด่นของซอยรัชดา 19 คือเป็นซอยที่ทะลุออกไปยังซอยวิภาวดี 16 และ วิภาวดี 20 เพื่อจะทะลุออกไปยังถนนวิภาวดีรังสิตได้ไม่ยากเลย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถยนต์ส่วนตัวจริงๆ
รอบๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่เดินลงมาจากโครงการก็เจอเลย ถือว่าสะดวกสบายสุดๆครับ แถมในช่วงตอนเย็นจะมีร้านอาหารสตรีทฟู๊ดหลากหลายให้ได้เลือกทานกันเพียบ ยิ่งในช่วงซอยวิภาวดี 16 บอกเลยครับว่าร้านอาหารละลานตามากๆ และสามารถเดินไปยังสวนลุมไนท์บาซ่าห่างจากโครงการเพียง 600 เมตร
ด้วยการที่เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรัชดา แน่นอนครับว่าสามารถเชื่อมต่อไปยังแหล่งไลฟ์สไตล์ในกรุงเทพฯ เพียงแค่ไม่กี่นาที นั่งรถไฟฟ้าเพียงแค่ 2 สถานีถึงสถานีพหลโยธินที่มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว และยูเนียน มอลล์ และต่อไปอีก 1 สถานีถึงจตุจักร เชื่อมรถไฟฟ้า BTS หมอชิตได้อีกด้วย
และยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้เคียงอย่าง The Street รัชดาแหล่งรวมไลฟ์สไตล์วัยรุ่นยุคใหม่ หรือต่อ MRT ไปยังสถานีศูนย์วัฒนธรรมแหล่งรวมไลฟ์สไตล์วัยรุ่นอีกแห่งอย่างตลาดนัดรถไฟรัชดาและ Esplanade รัชดา
และยังสามารถต่อรถไฟฟ้าใต้ดินจากตัวโครงการไปเพียงแค่ 5 สถานีก็จะถึงย่าน New CBD อย่างย่านพระราม9 ได้ง่ายๆ มีทั้งห้างเซ็นทรัลพระราม 9 และฟอร์จูน สายช้อปหมดห่วงไปได้เลยครับเดินทางสะดวกจริงๆ
โลเคชั่นตอบโจทย์คนยุคใหม่ขนาดนี้ มาดูในตัวโครงการกันบ้างดีกว่าว่าจะสุดแค่ไหนโดยตัวโครงการดีไซน์ออกมาในสไตล์ Contemporary Art โดยการสอดแทรกธรรมชาติเข้าไปในทุกส่วนของการออกแบบออกมาได้อย่างกลมกล่อมและร่วมสมัย และยังเพิ่มลูกเล่นของ Shape ห้อง ที่ดูจากภายนอกแล้วแสดงถึงคาแรคเตอร์ของคนเมืองยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
ส่วนของที่จอดรถจะอยู่ด้านล่างของตัวอาคาร ที่จอดรถคิดเป็น 40% รวมทั้งมีที่จอดรถแบบ EV Charger ไว้รองรับรถยนต์ Hybrid ด้วยครับ
ในส่วนของ Lobby ออกแบบเป็น Double Volume รองรับลูกบ้านได้เหลือเฟือออกแบบด้วยการคุมโทนสีเทา ตัดกับสีทอง แทรกด้วยพื้นหินแกรนิตโต้ให้ความหรูหรา และมีเสน่ห์มากๆ ครับ ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วน Co-Working space ให้ลูกบ้านมานั่งอ่านหนังสือ พักผ่อน ทำงานพร้อมเทควิวข้างนอกได้ชิลๆ
มาในส่วนดาดฟ้ากันบ้างถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อน Sky Garden ที่ดีไซน์ออกมาได้ร่มรื่นสุดๆ เหมือนอยู่กลางธรรมชาติใจกลางเมือง ขึ้นไปนั่งพักผ่อนพร้อมเทควิวภายนอกได้จุใจ
ส่วนห้องฟิตเนสอยู่บนดาดฟ้าเช่นเดียวกันสามารถเทควิวธรรมชาติภายนอก ออกกำลังกายไปชมวิวภายนอกไป ร่มรื่นสุดๆ ครับ
ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่บนดาดฟ้าเช่นกัน ซึ่งส่วนนี้สามารถเทควิวได้แบบ Panoramic เห็นวิวเมือง พร้อมมีกระจกใสกั้นกันตก ช่วงหัวค่ำขึ้นมาว่ายน้ำผ่อนคลายพร้อมเทควิวเมืองคงจะฟินเลยทีเดียวครับ
ดูส่วนกลางกันไปแล้วมาดูในส่วนห้องพักอาศัยกันบ้างครับ โดยผมจะพามาดูตัวอย่างห้อง 2 Type คือขนาด 1 Bedroom 35.7 ตร.ม. และ 1 Bedroom+ 38.8 ตร.ม. อย่างที่บอกไปตอนต้นครับว่าจุดเด่นของโครงการนี้คือทุกยูนิตให้เพดานสูงจุใจถึง 2.7 เมตร บอกได้เลยว่าได้ห้องที่โปร่ง โล่งกว้างแน่นอน แถมยังมีระบบ Home Automation เปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่ายๆ รองรับการใช้ชีวิตคนยุคใหม่
ห้องตัวอย่าง
เริ่มจากห้อง 1 Bedroom ขนาด 35.7 ตร.ม. กันก่อน แบ่งสัดส่วนห้องได้ค่อนข้างลงตัวครับ มีพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือเหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดีครับ
เปิดเข้ามาจะพบกับส่วนครัวอยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับ อย่างที่บอกไปครับ ฝ้าเพดานที่นี่พิเศษมากๆคือให้ความสูงถึง 2.70 เมตรเลย ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากกว่าปกติ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือพื้นส่วนครัวที่ทางโครงการออกแบบโดยใช้พื้นกระเบื้องเซรามิกที่ทำความสะอาดได้ง่าย ทนต่อการใช้งานครับ และในส่วน Living จะใช้เป็นพื้นไวนิลลายไม้ทั้งสวยงามและกันน้ำได้อีกด้วย
โดยแพนทรีครัวจะเป็นทรง L-Shape มีพื้นที่เหลือเฟือให้ใช้ประกอบอาหาร โดยเคาเตอร์ครัวทางโครงการจะให้เป็นบิวท์อินท็อปหินสังเคราะห์ตามห้องตัวอย่างเลย รวมถึงเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันแบรนด์ Teka อีกหนึ่งจุดเด่นของส่วนครัวคือจะเป็น ระบบดูดควันออกนอกตัวอาคาร ไม่ค่อยมีมาให้เห็นบ่อยๆ ยังแถม Backsplash กันผนังเปื้อนน้ำมันเวลาประกอบอาหารอีกด้วย
ถัดมาจะเป็นส่วนนั่งทานอาหาร ซึ่งเคาเตอร์ครัวที่ทางโครงการให้มาสามารถจัดเคาเตอร์บาร์ไว้นั่งรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้สบายๆ
ส่วนต่อมาด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่บอกเลยครับว่าค่อนข้างมีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนเหลือเฟือ มีระยะห่างจากทีวีประมาณ 2 เมตรครับ มีพื้นที่ให้วางโต๊ะกลาง และมีพื้นที่ให้เดินได้สบายๆ
แอบบอกว่าทางโครงการยังให้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งและชั้นวางทีวีอีกด้วย แถมยังเป็นส่วนพักผ่อนที่สามารถเทควิวภายนอกได้เต็มๆ ด้วยกระจกเต็มบาน
ถัดมาจะเป็นระเบียงขนาดกระทัดรัดใช้ตากผ้าได้สบายๆ และสามารถวางเครื่องซักผ้าได้พอดี ที่สำคัญราวกันตกเค้าให้เป็นแบบกระจกเทมเปอร์อย่างดี นอกจากจะทำให้ห้องดูหรูหราและยังไม่บังทัศนียภาพหากจะชมวิวภายนอกครับ
ด้านขวาจะเป็นส่วนของห้องนอน ซึ่งโครงการแถมประตูบานเลื่อนไม้กั้นโซนห้องนอนให้อีกด้วย ส่วนห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตและยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ ซึ่งโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งทางโครงการให้มาครบตามห้องตัวอย่างครับ
ส่วนต่อมาคือส่วน Walk in Closet ติดผนังทั้ง 2 ด้านที่ทางโครงการให้มาเช่นกัน บอกเลยว่าเป็นตู้เสื้อผ้าติดผนังขนาดใหญ่ขนาบ 2 ด้านจุเสื้อผ้าได้เยอะเลยทีเดียว ตอบฟังก์ชั่น His&Her ได้ดีสุดๆ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นทางเดินเชื่อมเข้าไปยังห้องน้ำ
ส่วนห้องน้ำสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ทางคือส่วนครัว และส่วนห้องนอน ตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน พร้อมตู้เก็บของติดผนังติดกระจกช่วยเพิ่มมิติให้ห้องน้ำกว้างขึ้นอีก และทีเด็ดอยู่ที่โครงการให้อ่างอาบน้ำมาด้วย ทุกห้องทุกโครงการโดยสุขภัณฑ์ที่ให้จะเป็นแบรนด์ Mogen และ Kohler พร้อมติดเครื่องทำน้ำร้อนให้ด้วย เรียกได้ว่าจัดเต็มสุดๆ ครับ
มาดูห้อง 1 Bedroom+ 38.8 ตร.ม. กันบ้างโดยยูนิตนี้จะเพิ่มพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เข้ามา สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ง่ายขึ้น เหมาะกับอยู่อาศัย 2 คนแถมมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย มาดูกันครับ
เปิดเข้ามาจะพบกับส่วนครัวอยู่ด้านขวา มีพื้นที่ประกอบอาหารกว้างเช่นกัน
มองย้อนไปที่ประตูทางเข้า
ส่วนเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันให้แบรนด์ Teka เหมือนกับขนาด 1 Bedroom ทุกอย่างรวมทั้ง Backsplash เคาน์เตอร์ครัว และพื้นกระเบื้องเซรามิก สเปคเดียวกันทุกอย่างครับ
ส่วนอีกด้านจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ให้ผ่อนคลายเช่นเดียวกัน มีระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟามากกว่าห้องขนาด 1 Bed เล็กน้อย สามารถวางโต๊ะกลางและมีพื้นที่ใช้สอยอีกเหลือเฟือครับ ทางโครงการแถมโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมตู้วางทีวีให้เหมือนกันทุกประการ
ถัดมาจะเป็นส่วนห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มเข้ามาครับ ขนาดกระทัดรัดโดยสามารถจัดเป็นห้องทำงานได้สบายๆ สามารถแต่งบิวท์อินชั้นวางของติดผนังเพิ่มเติมได้เล็กน้อย แถมมาพร้อมกับกระจกขนาดใหญ่พอดีทำงานไปเทควิวไปได้อีกด้วย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์เลยครับสำหรับห้องนี้
ระเบียงมีขนาดกำลังดีครับสามารถใช้ตากผ้าหรือวางเครื่องซักผ้าได้เช่นเดียวกัน พร้อมกระจกเทมเปอร์กันตก
มาถึงในส่วนห้องนอน มีขนาดค่อนข้างกว้างเลยครับ สามารถวางเตียงขนาด King Size พร้อมวางโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะข้างเตียง และยังมีพื้นที่เดินรอบเตียงได้สบายๆ ซึ่งทางโครงการแถมโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะข้างเตียง และบิวท์อินตู้เสื้อผ้าให้เช่นเคย แถมยังนอนเทควิวข้างนอกได้ฟินๆ ด้วยกระจกเต็มบาน
ถัดมาเป็นห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทางเช่นเดียวกันครับ ทางห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยสเปคทางโครงการให้อ่างอาบน้ำและสุขภัณฑ์แบรนด์ Mogen และ Kohler เช่นเดียวกับ 1Bedroom เลยครับ
สเปคสุดๆจริงๆครับ ยังไม่พอนะครับ ทุกยูนิตมาพร้อมกับระบบ Home Automation จากแบรนด์ HDL พร้อมของตกแต่งอย่าง Down Light หลอดไฟประหยัดพลังงาน เฟอร์นิเจอร์จัดเต็ม Fully-Furnished + Wallpaper และยังให้เพดานสูง 2.7 เมตรทุกยูนิต บอกเลยครับว่าเค้าแถมเพียบ บอกไม่หมด ไปดูเองเลยดีกว่าครับ
สรุป
สุดทั้งทำเล สุดทั้งดีไซน์
ย้ำว่าติดกับ MRT สถานีรัชดาแค่ 80 เมตร เรียกได้ว่าใกล้มากๆ เดินยังไงก็ไม่มีร้อน ไม่มีเหนื่อย โลเคชั่นแบบนี้ในย่านรัชดาฯบอกเลยว่า หายากมากๆครับ
แถมยังให้เฟอร์ครบ Fully-Furnished พร้อมลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ได้แบบเข้าใจสุดๆ
ตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยแล้วด้านการลงทุนก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยครับ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับรถไฟฟ้า และยังอยู่ไม่ไกลจากย่าน New CBD อย่างพระราม 9 เป็นอีกหนึ่งโครงการน่าจับตามองสำหรับสายลงทุนครับ ใครสนใจซื้อปล่อยเช่า หัวกะไดไม่แห้งแน่นอนครับ
ราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ลบ.* เฉลี่ย 125,000/ตร.ม. ลงทะเบียนพร้อมรับส่วนลดพิเศษแบบ Exclusive ได้แล้วที่ http://www.theteakcondo.com/
ชมห้องตัวอย่างที่ Sale Office The Teak รัชดาซอย 19 หรือ MRT สถานีรัชดา ทางออกที่ 1 และ 2 ได้เลยครับ https://goo.gl/maps/9qkdrq7ATh12
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ขอบคุณมากครับ เอาใจไปเลยลูกพี่!!!
5 ดาวไปเลยครับ
ให้ 4 ดาวละกัน แต่ชอบนะคะ อยากให้ลงบ่อยๆกว่านี้ค่ะ