![Favorite](https://www.livinginsider.com/assets18/images/icon/mobile-more/fav2.png)
Favorite
คนที่จะกู้คอนโดหรือบ้านต้องโปรไฟล์ดีระดับนึงเลยนะ โดยดีในที่นี้หมายถึงความมั่นคงทางฐานะการเงินถึงจะทำให้กู้ผ่านได้สบาย แต่มีอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่ทำเรื่องกู้แล้วไม่ผ่านผิดหวังกลับมา ซึ่งเรื่องพวกนี้มันมีเหตุและผลรองรับอยู่ ว่าเพราะอะไรถึงขอสินเชื่อบ้านหรือคอนโดไม่ผ่าน
1. ธนาคารไม่ได้คิดรายได้ทั้งหมด
อย่างที่รู้กันว่าแต่ละธนาคารมีเกณฑ์การพิจารณาไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ ที่บางอันแม้จะเป็นรายได้แต่ก็ไม่ได้นำมาคิด ยกตัวอย่างเราได้เงินเดือน 20,000 บาท ไม่รวมค่าเดินทางที่บริษัทให้ต่างหากเฉลี่ยอีกเดือนละ 3,000 บาท แต่ประเด็นคือบางธนาคารจะไม่นับรายได้ตรงจุดนี้ เพราะถือว่าไม่แน่นอนพอ เลยจะคิดแค่ 20,000 บาท ทำให้วงเงินในการกู้น้อยลงไปอีก
ขอบคุณภาพ : hiring.workopolis
2. บริษัทที่ทำก็มีผล
ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ ๆ มีชื่อเสียงก็ตัดข้อนี้ไปได้เลย แต่ถ้าเป็นบริษัทเล็ก ๆ ดูแล้วไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีการจ่ายประกันสังคม จ่ายเงินเดือนตรงบ้างไม่ตรงบ้าง รวมถึงการที่บริษัทไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงานแบบ Payroll ยังใช้การจ่ายแบบเป็นเช็คอยู่ อันนี้ก็น่าห่วงว่าธนาคารจะไม่นับเป็นรายได้เลยด้วยซ้ำ
3. เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น
ถึงแม้จะได้งานตั้งแต่เรียนจบ แต่ว่าระยะเวลาในการทำงานของแต่ละบริษัทไม่ถึงปี เปลี่ยนมา 4-5 บริษัท แถมบริษัทใหม่ที่ทำก็ยังอยู่ในช่วงโปร ธนาคารเค้าก็ไม่มั่นใจในตัวเราแน่นอน ไม่อย่างนั้นธนาคารส่วนใหญ่คงไม่กำหนดว่า อายุงานอย่างน้อยต้องผ่านโปรหรือขั้นต่ำ 6 เดือน แต่บางธนาคารก็อนุโลมให้รวมอายุงานจากบริษัทที่เก่าได้
4. เงินออมไม่เคยเก็บ
ประเด็นนี้อาจไม่สำคัญเท่าไหร่ ถ้าเรามีรายได้สูงและไม่มีหนี้สินหรือรายจ่ายเยอะ ขณะเดียวกันถ้าเรามีรายได้ไม่มาก แถมมีเท่าไหร่ก็ใช้ก็ช้อปหมด จากเงินเดือนกลายเป็นเงินทอนในพริบตาอันนี้น่าห่วง แต่ถ้ามีเงินออม ธนาคารก็มองว่ามีความรับผิดชอบเรื่องเงินมากพอ จึงอาจจะให้กู้ผ่านก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องออมเงินมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี แต่มีแค่หลักพันหรือหลักหมื่นต้น ๆ ก็ไม่ไหวนะ เพราะจะไม่มีผลต่อการพิจารณาของธนาคารเลย
5. บัตรเครดิตทำพิษ
ใครที่มีบัตรเครดิตอยู่ในมือจะกี่ใบหรือใบเดียวก็ตามแต่ ถ้ามีหนี้ในบัตรเกิน 40% ของรายได้ แถมบางคนจ่ายแต่ขั้นต่ำไม่เคยจ่ายเต็ม บางคนจ่ายช้า เป็นปัญหาแน่นอน เพราะทางธนาคารนำมาคิดเป็นรายจ่าย เป็นอันดับต้น ๆ เลย ยิ่งถ้ามีประวัติค้างชำระด้วยแล้วโอกาสการกู้ผ่านแทบเป็นไปไม่ได้
6. มีหนี้ก้อนโตอยู่ในมือ
หนี้ที่ว่าก็อย่างเช่น การผ่อนรถ หรือการเปิดร้านทำธุรกิจเล็ก ๆ ที่ต้องมีรายจ่าย ชัวร์อยู่แล้วว่าธนาคารต้องนำมาหักลบจากรายได้ด้วย ไม่ต่างจากบัตรเครดิต ซึ่งพอส่วนใหญ่หลายคนที่ติดการผ่อนรถและมีเงินเดือนไม่มาก ทำให้มีความเป็นไปได้สูงสุด ก็แค่กู้ได้แต่ไม่เต็มวงเงินที่ต้องการ หรือกู้ไม่ผ่านเลยก็มี แนะนำว่าให้ผ่อนรถให้หมดก่อนจะมีความเป็นไปได้ที่สูงกว่าในการขอสินเชื่อคอนโดหรือบ้าน
ขอบคุณภาพ : rawpixel
7. ผู้กู้ร่วมก็ไม่ช่วย
ถ้าเราคนเดียวไม่สามารถกู้ได้ ดังนั้นการหาผู้กู้ร่วมก็เป็นหนึ่งในทางออกที่ดี แต่ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นผู้กู้ร่วมได้ เพราะก็ต้องถูกตรวจสอบไม่ต่างจากผู้กู้หลัก และถ้าเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง เป็นฟรีแลนซ์ เป็นแม่ค้าพ่อค้าที่พกแต่เงินสดไม่เคยเดินบัญชี ต่อให้ขายดีแค่ไหนงานนี้ก็ช่วยอะไรผู้กู้หลักไม่ได้เช่นเดียวกัน
8. ราคาบ้านหรือคอนโดสวนทางกับรายได้
อย่าเลือกบ้านหรือคอนโดที่ชอบอย่างเดียวโดยไม่ได้สนว่าราคาเท่าไหร่ เพราะต่อให้อยากได้มากแค่ไหน แต่รายได้ของเราเอื้อมไปไม่ถึงทุกอย่างก็จบ จึงต้องดูที่รายได้ตัวเองก่อนว่าสามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคากี่ล้าน และค่อยเลือกด้วยความชอบอีกที
บอกเลยว่าถ้าใครเข้าข่าย หนึ่งในแปดข้อนี้แม้เพียงข้อเดียว โอกาสที่จะได้บ้านหรือคอนโดในฝันมาครอบครองก็จะมีเปอร์เซ็นต์น้อยลง ฉะนั้นแล้วติดขัดตรงไหนก็ควรรีบแก้ให้ตรงจุด และยื่นเรื่องขอสินเชื่อให้ครบทุกธนาคารไปเลย ไม่ได้อันนี้ก็ต้องได้อันนั้นสักอัน แต่เราต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยแล้วนะ
There will be experts in the area contacting you soon.
If you don't need help anymore Please click cancel in the email you received.
อ่านแล้ว รู้ความเคลื่อนไหวในวงการอสังหาเลยครับ ^^ ขอบคุณผู้เขียนครับ
อัพเดตเร็ว ข้อมูลตรงเว่อร์จ้าาาา
ได้ไอเดียไปแต่งห้องตัวเองหลายอย่างเลย
ห้องสวยมากๆเลยครับ
ชอบเรื่องไอเดียแต่งบ้าน ได้ความหลากหลายดีกำลังวางแพลนจะซื้อบ้านเลย เอาเรื่องไอเดียมาอีกเยอะๆนะค่ะ
น่าสนใจมากจ้า