ปลูกผักกินเองที่บ้านง่ายๆ ปลอดภัยไร้สารเคมี

ในปัจจุบันหลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นด้วยการออกกำลังกาย และเลือกกินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงไหมครับ ? แน่นอนว่าอาหารสำคัญของสายสุขภาพนั่นก็หนีไม่พ้นผักและผลไม้ นั่นเอง ซึ่งหลายคนอาจมองว่าการกินผักจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีได้ โดยอาจลืมนึกถึงความสะอาด ความปลอดภัยในผักที่เราบริโภคกันอยู่ แล้วผักที่เราซื้อตามห้างและตลาดสดมันสะอาดจริงๆ เหรอ?

เมื่อช่วงกลางปี 62 ที่ผ่านมาเริ่มมีข่าวการใช้สารเคมีในการปลูกผัก และมีสารเคมีตกค้างสูงถึง 41% เลยทีเดียว ซึ่งชนิดผักที่มีสารพิษตกค้างก็เป็นผักสายพันธุ์ยอดนิยมที่เราทานกันทุกวันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น กวางตุ้ง คะน้า กะเพรา ผักชี พริก กะหล่ำดอก ผักชี รวมถึงผักที่ติดคำว่า Organic เราจะรู้ได้ยังไงว่าปลอดสารเคมีจริงๆ ?

(ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2655290)

จากผักที่เราเชื่อว่าจะทานเพื่อให้ได้สุขภาพดี ทุกวันนี้เริ่มไม่แน่ใจกันแล้วใช่ไหมล่ะครับเพราะมีแต่สารเคมีทั้งนั้น เริ่มอยู่ยาก 555 แล้วเราจะหาซื้อผักปลอดสารเคมีจริงๆ ได้จากไหนอันนี้ก็คงต้องหากันอีกยาวๆ แต่อีกหนึ่งวิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ ปลูกผักไว้กินเองที่บ้านซะเลย

 

วันนี้เราจะพามาดูขั้นตอนง่ายๆ สำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มปลูกผักปลอดสารพิษ ไว้กินเองที่บ้านกัน

เตรียมความพร้อมก่อนปลูก

• ศึกษาสายพันธุ์ผักที่จะปลูก มือใหม่หัดปลูกผักที่บ้านเองควรหาสายพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับเวลาในการดูแลของแต่ละคน และศึกษาว่าผักสายพันธุ์นั้นๆ ต้องการแดดและน้ำ มากน้อยแค่ไหนเพื่อจะได้จัดพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูก 
• เตรียมพื้นที่ หลังจากเลือกสายพันธุ์ผักที่เหมาะกับพื้นที่บ้านได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ให้พร้อมในการปลูก ซึ่งการเลือกพื้นที่ในการปลูกควรเลือกบริเวณที่ไม่โดนพายุ ลม ฝน ตรงๆ เพราะอาจทำให้ผักเสียหายได้ รวมถึงการเตรียมอุปกรณ์การปลูก เช่น กระถางเพาะปลูกที่เหมาะกับผักชนิดที่เลือก และบริเวณบ้าน รวมถึงเตรียมอุปกรณ์ทำสวนต่างๆ 
• เตรียมหน้าดิน โดยการพรวนดินเพื่อให้ดินเหมาะแก่การเพาะปลูก และมีอากาศถ่ายเทเพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้อย่างมีคุณภาพขึ้น

ขั้นตอนการเริ่มปลูก

• ทำการปลูกโดยใช้เมล็ด โดยการโรยเมล็ดพันธุ์ให้เป็นแถว และนำดินกลบ ซึ่งการโรยเมล็ดพันธุ์ควรทิ้งระยะห่างของแต่ละเมล็ดเพื่อให้ไม่แย่งพื้นที่ในการเจริญเติบโต และไม่แย่งหน้าดินกันเอง
• ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ รวมถึงการใช้ปุ๋ยชีวภาพจากเศษอาหารเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ซึ่งการนำเศษอาหารที่เหลือมาใช้ประโยชน์เป็นปุ๋ยเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการปลูกผักปลอดสารเคมี
• ดูแลอย่างสม่ำเสมอ ในช่วง 1 สัปดาห์แรกควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หมั่นรดน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้า - เย็น และหลังจากนั้นสามารถลดปริมาณน้ำที่รดได้ แต่ยังคงรดน้ำวันละ 2 ครั้งเหมือนเดิมจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว
• เก็บเกี่ยว การเก็บผลผลิตของผักส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวในช่วงเวลา 40-60 วันขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์ ว่าใช้เวลาในการเติบโตแค่ไหน

เริ่มปลูกอะไรดี ?

• ผักบุ้งจีน ผักสวนครัวสุดฮิตคู่ครัวไทยอย่างผักบุ้ง เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่ใช้เวลาเก็บเกี่ยวที่ค่อนข้างสั้น เฉลี่ยประมาณ 20-25 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวขึ้นมาประกอบอาหารได้แล้ว โดยการใช้ดินจะใช้ดินร่วนสับและเกลี่ยให้ละเอียดในกระถางปลูก และโรยเมล็ดผักบุ้งให้ทั่วจากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม หมั่นรดน้ำทุกวัน แค่นี้ก็จะได้ผักยอดฮิตอย่างผักบุ้งมาประกอบอาหารแล้ว ซึ่งผักบุ้งนี้ใช้เวลาแค่ 3 วันจากเมล็ดก็จะเริ่มงอกเป็นต้นเล็กๆ ขึ้นมาให้เห็นแล้วครับ

• กวางตุ้ง  อีกหนึ่งชนิดผักที่ปลูกค่อนข้างง่ายด้วยการผสมดินร่วนเข้ากับปุ๋ยคอก จากนั้นฝังเมล็ดลงไปในดินลึกประมาณ 1.5 เมตร กลบด้วยดิน ปุ๋ยคอก จากนั้นก็รดน้ำตามปกติ แต่ในระยะเวลา 5 วันแรกหลีกเลี่ยงการตั้งให้โดนแดด แต่หลังจากนั้นเมื่อผักเริ่มโตขึ้นก็สามารถย้ายมาวางในบริเวณที่แดดส่องถึง เพียงแค่ 30 - 40 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวขึ้นมาประกอบอาหารได้แล้ว

• ผักคะน้า การปลูกผักคะน้าก็ง่ายไม่ต่างจากผักชนิดก่อนหน้านี้ เพียงแค่สับและเกลี่ยดินให้ละเอียดจากนั้นก็วางเมล็ดพันธุ์ลงไป กลบดินและรดน้ำตามปกติ ประมาณ 40 - 60 วันก็สามารถเก็บผลผลิตได้เลย

• ผักกาดหอม การปลูกให้ใช้ดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี โดยตากดินก่อนลงมือปลูกเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ พร้อมพรวนดินและใส่ปุ๋ยคอก หลังจากตากดินไว้แล้วก็สามารถหยอดเมล็ดพันธุ์ลงไป และเริ่มดูแลรดน้ำเช้า เย็นตามปกติ แต่เมื่อเริ่มมีใบขึ้น 2-3 ใบให้แยกที่อ่อนแอทิ้ง โดยผักกาดหอมจะใช้เวลาการปลูก 40 - 50 วัน

• ถั่วงอก เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี หลายคนอาจเคยปลูกถั่วงอกกันมาบ้างแล้วช่วงวัยเด็กจริงไหมครับ? ขั้นตอนก็ง่ายๆ นำเมล็ดถั่วเขียวไปแช่น้ำอุ่น 6-12 ชั่วโมง และนำขวดโหล รดน้ำลงในบริเวณก้นขวดเล็กน้อยให้ชุ่มพร้อมปูกระดาษทิชชู่ไว้ตรงก้นขวดโหล จากนั้นทำการโรยเมล็ดลงไปให้ทั่วกระดาษทิชชู่ นำกระดาษทิชชู่เปียกปิดทับอีกชั้น  จากนั้นก็ทำการดูแลรดน้ำตามปกติ เพียงแค่ 4-7 วันก็เก็บผลผลิตได้แล้ว

การปลูกผักกินเองที่บ้าน นอกจากจะปลอดสารเคมีแล้วยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะเลยทีเดียว ซึ่งชนิดผักยอดฮิตคู่ครัวไทยทั้งหลายก็ปลูกไม่ยากเลย เพียงแค่ต้องหมั่นดูแล รดน้ำให้สม่ำเสมอ แค่นี้ก็จะได้ผักปลอดสารเคมี มาประกอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ สักที