WFH ยังไงให้งานปัง ไม่มีพังแน่นอน ! รวมไอเดียเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานช่วง Work from home ให้ออกมาดีจนหัวหน้าต้องชม

ช่วงนี้คำว่า WFH มาแรงมากครับ (ซึ่งผมก็ชอบอ่านผิดทุกที) เป็นคำที่เห็นทุกวัน วันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะบริษัทส่วนใหญ่ก็ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือ "Work from home (WFH)" กันหมดแล้ว หลายคนจึงพยายามหาคู่มือการทำงานที่บ้านในอินเตอร์เน็ตกันยกใหญ่ ก็อย่างว่านะครับ ทำงานที่บ้านมันไม่เหมือนที่บริษัท บ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา บางคนเลยหาบรรยากาศในการทำงานไม่เจอ เลยพาลจะไม่มีอารมณ์ทำงานไปซะอย่างนั้น

ในเมื่อสถานการณ์มันทำให้ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องทำงานที่บ้าน งั้นเราก็ต้องหาทางเพิ่มฟีลลิ่งที่บ้านให้มีอารมณ์ทำงานมากกว่าเดิม วันนี้ผมมีเทคนิค WFH ให้งานออกมามีประสิทธิภาพ ปัง ๆ ไม่มีพังมาฝากครับ จะน่าสนใจแค่ไหนนั้น ไปดูกันเลย

อาบน้ำแปรงฟันเหมือนวันออกไปทำงาน

เรามาเริ่มตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนตอนเช้ากันเลยครับ ซึ่งผมบอกเลยว่าการล้างหน้าแปรงฟัน ทำกิจกรรมยามเช้าให้เหมือนวันไปทำงานปกติเนี่ยสำคัญมากนะครับ เพราะมันเป็นเหมือนการทำพฤติกรรมเดิมที่ร่างกายคุ้นชิน ตัวเราก็จะรู้ว่าเดี๋ยวทำตรงนี้เสร็จต้องไปทำงานต่อ ถ้าไม่งั้นลุกมานั่งทำงานเลยทั้งที่หน้ายังไม่ได้ล้าง ร่างกายจะคิดถึงเตียงกับหมอนข้างมากกว่างานบนโต๊ะนะครับ

ขอบคุณภาพจาก crossboxs.com

จัดมุมทำงานแบบจริงจัง

มุมทำงานนี่ก็สำคัญครับ อาจใช้โต๊ะนั่งอ่านหนังสือ หรือโต๊ะอาหารในการ WFH ก็ได้แล้วแต่ถนัด แต่ผมแนะนำว่าควรนั่งทำแบบจริงจังเลยครับ ไม่ควรกึ่งนั่งกึ่งนอน หรือนอนทำ อันนั้นเอาไว้เบื่อ ๆ หรือเปลี่ยนอิริยาบถบ้างสัก 15-20 นาทีดีกว่าครับ แต่ควรนั่งทำงานเป็นหลัก ร่างกายจะได้โฟกัสกับงานได้เต็มที่ ถ้านอนทำงานหรือเอนหลังบนโซฟาทำงาน ผมบอกเลยว่าไม่เข้าเฝ้าพระอินทร์ก็ลูกตาไปอยู่กับ Netflix แน่นอน

ขอบคุณภาพจาก nonilo.com

กำหนดเวลาทำงานให้ตัวเอง

ถึงที่บ้านจะเป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่มีใครเห็น แต่เราก็ควรซื่อสัตย์กับตัวเองครับ ควรทำงานให้ครบตามเวลาที่ตกลงกับไว้กับบริษัท (ส่วนใหญ่จะ 8 ชั่วโมงไม่รวมพักเที่ยง) นอกจากจะเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ยังช่วยให้เราจัดการเวลาได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ เหมือนเป็นการฝึกแบ่งเวลาในแต่ละวันไปในตัว คอยดูสิเดี๋ยวพอสถานการณ์กลับมาปกติ คุณจะแบ่งเวลาในแต่ละวันได้ดีขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณภาพจาก facebook.maahalai.com

ทำตารางงานให้ชัดเจน

สำหรับใครที่รับผิดชอบงานหลายส่วน หรือมีหลายเรื่องให้ต้องทำในแต่ละวัน แค่ทำที่ออฟฟิศก็จำไม่หมดแล้ว ยิ่งทำที่บ้านนี่นึกไม่ออกแน่ ๆ ครับ ผมแนะนำให้เขียนแปะไว้บนกำแพงเลยครับ หรือแปะ Post it ไว้บนจอคอมเลยก็ได้ว่าวันไหนต้องทำอะไรบ้าง เรียงลำดับให้ชัดเจนไปเลย เพราะอยู่บ้านเพื่อนตะโกนถามงานเราไม่ได้นะครับ บางทีไลน์ไม่เตือน รู้อีกทีต้องส่งงานแล้วนี่งานเข้านะครับ

ขอบคุณภาพจาก advancedbizmagazine.com/2020/01/18/schedule

ใช้ Application ให้เป็นประโยชน์

สมัยนี้เทคโนโลยีไปไกลมากแล้วครับ แอปฯ ในมือถือและบนคอมมีหลากหลายมาก ซึ่งก็มีหลายตัวเป็นประโยชน์กับการทำงานของเรา อย่าง Google Hangout, Slack ที่สามารถแชทกับเพื่อน ๆ ที่ทำงานได้แบบลื่น ๆ ไม่ต้องง้อไลน์ หรือจะเป็น Hangout's Meet, Zoom, Skype ที่สามารถประชุมงานทางไกลได้ และแอปอื่น ๆ อีกเยอะเลยครับที่สามารถช่วยจัด To do list ของแต่ละวันให้เราได้ ลองฝึกใช้ดูครับ แล้วชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ  

ขอบคุณภาพจาก tieweng.com

ประชุมกับเพื่อนร่วมงานบ่อย ๆ 

การประชุมนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นหัวข้อที่เคร่งเครียดเสมอไปครับ อาจเป็นการคุยในช่วง WFH วันละครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง เพื่ออัพเดทงาน Brainstorm หรือพูดคุยทั่วไปเพื่อคลายเครียดก็ได้ เพราะการต้องทำงานที่บ้านคนเดียวไม่ได้เจอผู้คนเลยเนี่ย นานไปมันจะเครียดครับ ต้องมีพื้นที่ให้ได้ Relax พูดคุยกับคนอื่นบ้าง ไม่งั้นถ้าให้ทำงานอยู่คนเดียวตลอดเวลาเนี่ย กว่าจะผ่านช่วง COVID-19 ได้นี่ไม่ไหวแน่ครับ

ขอบคุณภาพจาก 1-to-all.com

ทีวี หนังสือ ของกิน หมอน วางไว้ให้ห่าง

ปัญหาอีกข้อหนึ่งของการทำงานที่บ้าน นอกจากจะทำให้เราขี้เกียจแล้ว สิ่งยั่วยวนต่าง ๆ ยังเยอะอีกด้วย ! อะรีโมททีวีก็อยู่ข้าง ๆ เดินไป 10 ก้าวก็ถึงตู้เย็น เตียงก็ห่างออกไปไม่ไกล กับข้าวที่แม่ซื้อให้ก็วางอยู่ในครัว ... คือแบบ หันไปทางไหนก็มีแต่กิเลส อยากจะลุกไปจัดการซะให้รู้แล้วรู้รอด เพราะงั้นทางหนีเดียวของเราที่ควรทำ คือเอาสิ่งของที่รบกวนสมาธิไปออกไปให้พ้นสายตาครับ ถ้าทำไม่ได้ก็หันหน้าออกหน้าต่างไปเลย ฟังเพลงชิล ๆ ไป ไม่งั้นทำงานแบบอยู่ไม่สุขแน่

ขอบคุณภาพจาก medicalnewstoday.com

WFH ไม่ได้แปลว่าเราจะทำไปดูหนังไป หรือทำงานไปแอบงีบไปได้นะครับ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเวลางานปกติเหมือนเราไปทำงานที่ออฟฟิศ บริษัทเขาซื้อเวลาเรามาเท่าไหร่ เราก็ต้องทำให้เขาเท่านั้นครับ ในช่วงที่เศรษฐกิจแย่แบบนี้ต้องช่วยเหลือกันครับ ผ่านมันไปพร้อม ๆ กัน จะได้รักกันมากขึ้น :))