
Favorite
บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) ย้ำเดินหน้าตามแผนธุรกิจ 5 ปี เน้นปรับตัวและรูปแบบการดำเนินงาน เพื่อรับมือผลกระทบสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ล่าสุดดึงเทคโนโลยีออนไลน์ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคปัจจุบัน แจงไตรมาสแรกของปี 2563 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย สามารถทำ ยอดขายได้กว่า 500 ล้านบาท ในขณะที่ยอดจอง Pre-Approve และ Backlog เพิ่มขึ้นถึง 80%
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการจำกัด (มหาชน) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและบริการ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของทุกภาคธุรกิจ ซึ่งในส่วนของมั่นคงฯ นั้นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มากนัก ทั้งนี้เนื่องด้วยทางบริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือและปรับเปลี่ยนแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปรับการทำงานของทีมงาน, การปรับการขายที่ดึงเอาเทคโนโลยี Virtual Tour 360 องศา มาใช้ให้ลูกค้าชมบ้านเสมือนจริงแม้ไม่ได้เดินทางมาที่โครงการ
และยังสามารถเลือกเป็นเจ้าของผ่านช่องทาง Line ได้อีกด้วย นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและกว่า 70% เป็นลูกค้าไม่ติดภาระสัญญากู้เงินที่อยู่อาศัย ประกอบกับสินค้าของบริษัทฯ อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท จึงทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากหนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังออกโปรโมชั่นต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น ทำให้บริษัทฯ ยังสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
“สำหรับในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 500 ล้านบาท ซึ่งหากนับรวมยอดจอง Pre-Approve และ Backlog บริษัทสามารถทำยอดขายในช่วงไตรมาสแรกคิดเป็น 35% ของเป้าตลอดทั้งปี 2563 และจากการดำเนินงานในช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดจอง Pre-Approve และ Backlog ประมาณ 90 ล้านบาท/สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 80%”
นายวรสิทธิ์ กล่าวต่อไปถึง ภาพรวมธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการของมั่นคงฯ “ความแข็งแกร่งของแผนธุรกิจ 5 ปี ของบริษัทฯ ที่มุ่งสร้างสมดุลรายได้เพื่อความมั่นคง นับว่าเป็นแผนการดำเนินงานที่บริษัทฯ มาถูกทางแล้ว แม้ในภาพรวมของการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย จะชะลอตัวไปบ้างด้วยปัจจัยต่างๆ แต่ด้วยแผนธุรกิจของบริษัทฯ ทำให้เรามีรายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ หรือธุรกิจรายได้ประจำเข้ามาเสริมและช่วยรักษาสมดุลทางรายได้ ทำให้ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งในปี 2562 มีรายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2561”
สำหรับแผนการดำเนินในธุรกิจเพื่อเช่าและการบริการ ของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) นั้น ได้แก่ ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ที่บริหารงานโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ยังคงทำผลงานได้ดี ทั้งนี้ในปี 2562 ที่ผ่านมามีผู้เช่าแล้วกว่า 90% ของพื้นที่เช่า, ธุรกิจโครงการ พาร์ค คอร์ท (Park Court) สุขุมวิท 77 คอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์ระดับลักซ์ชัวรี่ไฮเอนด์ให้เช่า ยังสามารถรักษาอัตราเช่าให้อยู่ที่ 80% ของจำนวนห้องเช่าทั้งหมด
ธุรกิจสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ, ธุรกิจบริการด้านดูแลจัดการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดย บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด รวมไปถึงธุรกิจโครงการสถานพยาบาล สถานฟื้นฟู และเวชศาสตร์ชะลอวัย (Wellness Center) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโต และมีแผนจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2563
ในส่วนของหุ้นกู้และตั๋วแลกเงินที่จะครบกำหนดในช่วงปีนี้ บริษัทได้มีการเตรียมแผนการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ระดมออกหุ้นกู้ 3 ปี 11 เดือน เป็นจำนวนเงิน 1,565 ล้านบาท อีกทั้งได้มีการขายทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในแผนพัฒนาในอนาคตอันใกล้เป็นจำนวนเงินกว่า 2,600 ล้านบาทในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา นอกเหนือจากนี้ยังมีทรัพย์สินที่ไม่มีภาระผูกพันอีกมากกว่า 2,500 ล้านบาท ทำให้มีความยืดหยุ่นเพื่อใช้เป็นช่องทางในการเสริมสภาพคล่อง
และสำหรับปีนี้ได้เตรียมที่จะขายทรัพย์สินในส่วนของโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่ากว่า 130,000 ตารางเมตร มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เข้ากองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยทางกลต.ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทจัดการกองทรัสต์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และคาดว่ากองทรัสต์จะเสนอขายต่อประชาชนได้ในไตรมาส 3 นี้ ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สิน ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Interest bearing debt ratio) ให้ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดย ณ สิ้นปี มีสัดส่วนเท่ากับ 1.3 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
“ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน ทั้งปัจจัยจากไวรัสโควิด-19 และสภาวะเศษฐกิจทั้งหลาย แต่เราก็ยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายสร้างความสมดุลของรายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอทั้งเช่าและการบริการ และมุ่งมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพ เพื่อขยายในส่วนของธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี พร้อมขยับสัดส่วนกำไรของทั้ง 2 ฝั่งให้อยู่ที่ 50/50 ภายใน ปี 2564 เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้บริษัทตามแผนที่วางไว้” นายวรสิทธิ์ กล่าวสรุป
“แสนสิริ” ลุยต่อ Q1/68 จัดแคมเปญ “Setthasiri Exclusive Deal” รับสูงสุด 6 ล้านบาท* กับ 15 โครงการ เริ่ม 8.99-45 ล้านบาท* ดีเดย์ 22-23 ก.พ.นี้
yesterday
“เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่” คอนโดฯ ดีไซน์ใหม่ ผนึก 3 พันธมิตร “ฟู้ดแลนด์-อลิอันซ์ฯ-มูฟมี” ส่งมอบประสบการณ์อยู่อาศัยครบวงจร
yesterday
ออริจิ้น จับมือ ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ ปิดบิ๊กล็อตโควตาต่างชาติ “So Origin Sukhumvit 105” มูลค่า 1,200 ลบ. สร้างแต้มต่อรุกตลาดอสังหาฯ 5 ประเทศในเอเชีย
yesterday
เอพี ไทยแลนด์ ฉลองแชมป์ยอดขายบ้านแฝด 3 ปีซ้อน จัดแคมเปญ “เสิร์ฟคุ้มX2” กับ 49 โครงการ เริ่ม 2.99-16 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้-31 มี.ค. 68
yesterday
เอสบี ดีไซน์สแควร์ ตอกย้ำแนวคิด Home Design Solutions โชว์สุดยอดนวัตกรรมเฟอร์นิเจอร์เติมเต็มไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ในงาน FTI EXPO 2025
2025-02-17
ขอบการเขียนรีวิวของเว็บนี้จัง
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย รู้เรื่องดีค่ะ
อ่านเยอะๆ แล้วรู้สึกเงินในบัญชีจะสั่นๆ นะ อยากได้ขึ้นมาเลย
เยี่ยมไปเลยครับ
อ่านเพลินครับ
ได้ประโยชน์มากๆ อ่านสนุกดี