6 ข้ออ้างยอดนิยม ที่คนมักใช้เมื่อไม่กล้าลงทุน

ผมชอบได้ยินหลายคนชอบพูดว่า "เป็นมนุษย์เงินเดือนน่ะไม่รวยหรอก ต้องลงทุนถึงจะรวย" ซึ่งมันก็จริงนะ ถ้าเรามีรายได้จากงานประจำแค่ทางเดียว เมื่อถึงวันที่เราแก่ตัวลงต้องออกจากงานเราจะไม่มีอะไรรองรับเลย ต้องหาช่องทางรายได้ใหม่ตั้งแต่ต้นซึ่งมันจะยากมากถ้าไปเริ่มตอนอายุ 60 ปี ดังนั้นการเริ่มลงทุนหารายได้จากช่องทางใหม่ ๆ เป็นทางเลือกที่ผมว่าจำเป็นต้องทำเลยล่ะครับ

ผมว่าใคร ๆ ก็คิดได้ทั้งนั้น แต่น้อยคนที่กล้าลงมือทำ และคนที่ประสบความสำเร็จก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ทำให้ผมสงสัยมากเลยว่าทำไมล่ะ ? ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาและการได้พูดคุยกับคนรอบข้าง ทำให้ผมพอจะสรุปได้ละว่า ทำไมหลายคนยังลังเลและไม่กล้าที่จะลงทุน 

ขาดความรู้เกี่ยวกับการลงทุน

อันนี้เป็นเหตุผลที่ได้ยินบ่อยแต่ถือว่าฟังขึ้นนะครับ การที่เราจะจ่ายเงินไปกับอะไรสักอย่างเราต้องมีความรู้เกี่ยวกับมันให้มากพอซะก่อน ยิ่งการลงทุนถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องใช้ความเข้าใจสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดร้านอาหาร ทำธุรกิจส่วนตัว หรือเล่นหุ้น ทุกอย่างล้วนมีส่วนประกอบยิบย่อยให้ศึกษาอีกเยอะครับ แต่ถ้าตั้งใจศึกษาจริง ๆ ก็ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอนครับ แล้วยิ่งสมัยนี้มีทั้ง Youtuber และกูรูมากมายที่ช่วยกันแชร์ความรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต ความรู้อยู่ในมือแบบนี้ อยู่ที่เราแล้วล่ะครับว่าจะคว้าไว้ไหม 

ขอบคุณภาพจาก subpage.net

ไม่มีเงินทุนมากพอ

ประเด็นนี้จะเรียกข้ออ้างก็ไม่เต็มปากนัก เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลต่างกันครับ บางคนต้องส่งเงินให้ที่บ้าน บางคนมีหนี้สินติดตัว บางคนมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินจริง ๆ แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ผมว่าก็ต้องรับผิดชอบภาระทางการเงินที่มีให้ดีที่สุดก่อนครับ แต่ในระหว่างนั้นเราก็หาความรู้และวางแผนการเงินไปด้วย เมื่อภาระหมดลงหรือพอจะขยับตัวได้บ้าง เราจะได้พร้อมลงทุนได้เร็วขึ้น 

ขอบคุณภาพจาก mutualfunds.com

ไม่มีเวลา แบ่งเวลาไม่ได้

เวลานี่ดูเหมือนจะมีปัญหากับทุกเรื่องจริง ๆ นะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุนหรือเรื่องอื่นก็ตาม ส่วนใหญ่เค้าจะชอบอ้างกันว่า "แค่ทำงานประจำกลับมาก็มืดแล้ว กว่าจะอาบน้ำกินข้าวก็ถึงเวลานอนพอดี" ซึ่งก็ไม่ผิดอีกนั่นแหละ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันอยู่ที่การจัดการเวลาของเราเองนี่ล่ะครับ ลองคิดถึงตอนที่เราดูซีรี่ส์เรื่องโปรดยันเช้าสิ ทำไมเราให้เวลากับมันได้ล่ะ ? 

ขอบคุณภาพจาก networkworld.com

แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว

ผมเข้าใจนะครับว่างานประจำนั้นสูบพลังชีวิตเราขนาดไหน ยิ่งวันที่มีประชุมหรือต้องดีลโปรเจกต์ใหญ่มูลค่าหลายล้านด้วยล่ะก็ เครียดจนปวดหัวเลยล่ะครับ ตกเย็นมาแทบไม่มีแรงพาตัวเองกลับบ้าน ... แต่ถ้าลองศึกษาดูให้ดี คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ล้วนทำงานหนักกันหมด ทางแก้จะเชื่อมกับประเด็นที่แล้วครับ คือจัดสรรเวลาให้ดี แบ่งเวลาไปลงทุนบ้าง ยอมเหนื่อยหน่อยแต่คุ้มแน่นอนครับ 

คนนั้นเค้าว่า คนนี้เค้าว่า 

หลายคนที่เริ่มสนใจการลงทุน ก็จะหาข้อมูลเพิ่มเติมจากคนใกล้ตัวใช่มั้ยล่ะครับ ถามพี่ที่ทำงานบ้าง ถามญาติพี่น้องที่มีประสบการณ์บ้าง ก็ถือเป็นเรื่องดีนะครับที่ใส่ใจหาข้อมูลเพิ่ม แต่ที่สำคัญคือเราเชื่อทั้งหมดไม่ได้ ต้องกรองข้อมูลที่ได้มาด้วยนะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าคำแนะนำของแต่ละคนนั้นจริงแค่ไหน บางคนอาจเคยทำเองจริง แต่บางคนอาจฟังมาอีกที หรืออ่านจากในเน็ตมา ต้องฟังหูไว้หูและวิเคราะห์ให้ดีครับ  

กลัว ไม่กล้าเริ่มทำสิ่งใหม่

เรื่องความกลัวผมว่าสำคัญมากครับ เพราะบางคนมีทุกอย่างพร้อมแล้วนะ เงินเก็บก็มี งานประจำก็ดี เวลาก็พร้อม ขาดอยู่อย่างเดียวเลยคือ "ความกล้า" ถ้าใจเราไม่กล้าเริ่ม ไม่กล้าเสี่ยง ทุกอย่างก็ไม่มีทางเป็นไปได้ครับ ตรงนี้แหละแก้ยากที่สุด ทางรักษาทำได้หลายวิธีครับ อาจดูคลิปหาแรงบันดาลใจ ออกเดินทางหาเป้าหมายชีวิต หรือไปสถานที่ใหม่ ๆ เปิดโลกให้ตัวเอง เพื่อเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าให้ได้ครับ 

ที่รวมข้ออ้างพวกนี้มาให้ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลยนะครับ ผมแค่อยากบอกทุกคนว่าประเด็นเหล่านี้มันไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราหรอกครับ ถ้าคุณต้องการจะเริ่มลงทุนจริง ๆ อยากให้เริ่มเลยครับ ถ้าเงินไม่พอก็วางแผนเก็บเงินเลย ถ้าความรู้ไม่พอก็หาความรู้เพิ่ม หลังจากมีปัจจัยพร้อมแล้วก็เริ่มไปเลย เรื่องอื่น ๆ ไว้เรียนรู้ระหว่างทางได้ครับ ถ้ามัวแต่กลัว ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จนะครับ  

อ่านอะไรต่อดี ?

กฏความมั่งคั่ง 5 ข้อ ของพนักงานประจำ

ทฤษฎีแมลงสาบ 3 ตัว ในวิกฤตเศรษฐกิจแต่ละครั้ง

รวมเทคนิคการออมเงินขั้นเทพ เก็บเงินยังไงไม่ให้ไหลออกจากกระเป๋า