ทริคต่อรองราคาซื้อบ้านมือสอง ให้ WIN-WIN ทั้งสองฝ่าย

สินค้าเกือบทุกชนิดที่ไม่ใช่ในห้างสรรพสินค้า มักตั้งราคาไว้สูงเพื่อเผื่อคนต่ออยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแค่บอกราคาที่เราต้องการ ถ้าได้ก็ได้ไม่ได้ก็จบ แต่กับบ้านหรือคอนโดที่เป็นมือสอง ต้องมีชั้นเชิงในการต่อราคามากกว่านั้น เพราะขอลดทีกันเป็นแสนจะมาพูดลดกันง่ายๆ ก็คงไม่ใช่

ศึกษาราคารอบข้าง

หนึ่งวิธีที่จะรู้ได้ว่าบ้านหรือห้องที่เราอยากซื้อต่อนั้น มีราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ ให้ศึกษาสอบถามรอบข้างที่ตั้งขายกันอยู่ว่ามีราคาไล่เลี่ยกันรึเปล่า หรือไม่ก็จ้างผู้เชี่ยวชาญให้เค้ามาประเมินให้เราเลย เพื่อที่จะได้มีธงในใจว่าควรจะขอลดราคาลงมาเท่าไหร่ผู้ขายถึงจะโอเค อีกทั้งยังมีหลักฐานในการอ้างอิงได้ ว่าหลังอื่นห้องนั้นเค้าให้ราคามาเท่านี้พอจะลดได้อีกไหม อย่างไรก็ตามควรเปรียบเทียบในลักษณะเดียวกันด้วยนะ

ชอบจริงจังถึงค่อยต่อ

กรณีนี้หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกหลังไหน ให้ลองหยั่งเชิงดูก่อนว่าสามารถลดได้เท่าไหร่ ให้ถามแค่นั้นก่อนอย่าเพิ่งจริงจังเซ้าซี้ลงลึกรายละเอียด ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียเวลา และให้ความหวังกับผู้ขายมากเกินไป บางครั้งอาจมีปากมีเสียงเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้วค่อยคุยกันแบบเป็นกิจจะลักษณะอีกที

ถามหาสาเหตุที่อยากขาย

เมื่อเรารู้ที่มาที่ไปของการขายครั้งนี้ จะทำให้เรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น โดยพยายามเลือกบ้านที่รีบขาย ขายด่วน อย่างเช่น กำลังย้ายไปต่างประเทศหรือภูมิลำเนาอื่น ต้องการใช้เงินก้อนทันที หรือติดจำนองแบงค์ เป็นต้น ซึ่งควรเช็กดีเทลตรงนี้ให้ครบถ้วน ว่ามีเหตุผลอื่นที่ไม่ดีแอบแฝงอยู่หรือไม่

หาข้อด้อยของบ้านหรือคอนโดมาเป็นส่วนลด

ส่วนมากผู้ขายจะรีโนเวทให้แล้วส่วนหนึ่งดังนั้นจะสภาพค่อนข้างดี แต่ก็มีเหมือนกันที่ผู้ซื้อต้องรีโนเวทเองเกือบทั้งหมด เราอาจเอาจุดนี้มาขอลดราคา ลองคำนวณจุดที่ต้องซ่อมแซมว่าเป็นเงินเท่าไหร่ เพื่อเอาส่วนลดนี้ไปปรับปรุงบ้าน หรือทางผู้ขายไม่ยอมแต่จะซ่อมให้แทนอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าโอเคไหม ทั้งนี้อย่ามัวแต่หาข้อบกพร่องจนไม่มีข้อดีเดี๋ยวจะดูเกินงามไปหน่อย

ต่อได้แต่อย่าแรง

ต่อให้บ้านหรือคอนโดที่เราถูกใจจะเกินงบหรือไม่เกินงบก็ควรต้องต่อราคา ถ้าสำรวจแล้วราคาเฉลี่ยประมาณนี้อาจขอลดราคาไม่มาก แต่ถ้าแพงเกินไปก็ลดลงมาได้เยอะ โดยขอให้ลดมากกว่าที่เราต้องการจริงๆ เพราะเชื่อเถอะว่าต่อให้เราขอลดนิดเดียว ผู้ขายก็ไม่สามารถให้ราคานั้นได้อยู่ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าต่อจนหากำไรไม่เจอ หรือไม่ก็ถามเค้าตรงๆ เลยว่าลดให้เท่าไหร่เพื่อดูท่าที ถ้าเจ้าของบอกราคามาแล้วเราคิดว่ายังสูงไปก็ต่อมาอีกนิด เชื่อว่าสุดท้ายจะได้ราคาที่ลงตัวเอง

กฎตายตัวให้ระลึกไว้เสมอว่า อย่าอายที่จะเอ่ยปากขอต่อราคา ขณะเดียวกันเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดซะว่าเราก็ได้ส่วนลดในราคาที่เหมาะสม ผู้ขายก็ได้กำไรที่พอหอมปากหอมคอ แบบ WIN-WIN ทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างได้ในสิ่งที่ต้องการติดไม้ติดมือกลับไปอย่างถ้วนหน้า