นักจุลชีววิทยาจาก Dyson แชร์ 4 วิธีกำจัดฝุ่นภายในบ้าน

• สภาพอากาศชื้นและการเข้าออกบ้านสามารถทำให้จุลินทรีย์ภายในบ้านของเรามีความหลากหลาย

• ไรฝุ่นและมูลจากไรฝุ่นเป็นตัวกระตุ้นโรคภูมิแพ้ต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก และคุณคิดว่าจะเห็นอะไรบนที่นอนเมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์?

GEM MCLUCKIE หัวหน้านักวิจัยด้านจุลชีววิทยาของ DYSON เปิดเผยข้อมูลที่จะทำให้คุณรู้ทันไรฝุ่นมากขึ้น พร้อม 4 วิธีกำจัดฝุ่นภายในบ้าน 

ไรฝุ่นคืออะไร?

ไรฝุ่นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์พบได้ในที่อยู่อาศัยทั่วโลก พวกมันมีอายุเฉลี่ย 65-100 วัน ตลอดช่วงอายุพวกมันจะขับถ่ายของเสียประมาณ 2,000 เม็ดและหลั่งโปรตีนผ่านทางน้ำลายซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ก่อให้เกิดอาการแพ้และส่งผลต่อคุณภาพชีวิต

สารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นเป็นตัวกระตุ้นที่มีผลมากที่สุดต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ของผู้คนทั่วโลก การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่วัยเด็กนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคหอบหืดไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศชื้นและอุณหภูมิอบอุ่น

อย่างสภาพอากาศในประเทศไทย เมื่ออากาศร้อนขึ้นเรามักจะใช้เวลามากขึ้นในการเข้าและออกบ้าน เป็นการเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ เพิ่มสารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรียและไวรัสให้กับฝุ่นภายในบ้านของเรา

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเทศกาลเรามักจะเชิญแขกมาที่บ้าน ยิ่งมีคนอยู่ในบ้านมากเท่าไหร่ จะยิ่งมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นแหล่งอาหารลักของไรฝุ่น การทำความสะอาดบ้านให้ล้ำลึกมีความสำคัญมาก การกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเป็นการจำกัดอาหารของไรฝุ่น และป้องกันไม่ให้มันแพร่พันธุ์มากขึ้น

ไรฝุ่น สัตว์กินผิวหนัง

ไรฝุ่นส่วนใหญ่กินเซลล์ผิวที่แห้งเหี่ยวหรือตายที่เกิดจากการผลัดเซลล์ของมนุษย์และสัตว์ โดยเฉลี่ยมนุษย์จะผลัดเซลล์ผิว 2 กรัมต่อวัน และในเวลากลางคืนเซลล์ที่ตายแล้วหลั่งออกมาเนื่องจากการเสียดสีผ้าปูที่นอน นอกจากนี้ ไรฝุ่นยังสามารถกินเศษซากต่างๆ ในบ้าน เช่น อาหารปลา เชื้อรา และเศษอาหาร

พื้นที่ที่คุณใช้เวลามากที่สุดและผลัดผิวมากที่สุดคือจุดที่มีแนวโน้มที่จะพบไรฝุ่นมากที่สุด เราใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตอยู่บนเตียงนอน เป็นไปได้ว่าพวกเราอาจจะนอนบนเตียงที่เต็มไปด้วยมูลของไรฝุ่น! โดยเตียงเดี่ยวสามารถมีไรฝุ่นจำนวนหลายล้านตัว7 และมีแนวโน้มว่าที่นอนของคนผิวแห้งจะมีไรฝุ่นจำนวนมากกว่า และผิวหนังของพวกเขามีปริมาณไขมันน้อยกว่าเป็นที่ชื่นชอบของไรฝุ่น

ไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในอากาศ อบอุ่น ชื้นและมืด โดยเฉพาะในระดับความชื้น 70% และอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส บริเวณที่เราหายใจ ขับเหงื่อ และถ่ายเทความร้อนเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ที่นอน เตียงสัตว์เลี้ยง และเครื่องเรือนเนื้อนุ่ม ไรฝุ่นบางกลุ่มสามารถอยู่รอดได้ในความชื้นที่ต่ำกว่า 45% หรือแม้กระทั่งมีการเพิ่มระดับความชื้นในบ้านเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อวัน เช่น การทำอาหาร หรืออาบน้ำอุ่น 

ไรฝุ่นไม่เป็นอันตราย แต่โปรตีนที่อยู่มูลและชิ้นส่วนของร่างกายของมันสร้างสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอันตราย อาการน้ำมูกไหล น้ำตาไหล และคันคอ จากการเคลื่อนย้ายเสื้อผ้าเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่น อาจเป็นปฏิกิริยาที่ไม่รุนแรงต่อสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น แต่อาจส่งผลกระทบอาจร้ายแรงกว่าในบางคน

คนไข้ที่เป็นโรคหอบหืด ผิวหนังอักเสบ และติดเชื้อไซนัสบ่อยๆ มักแพ้ไรฝุ่น จากผลการศึกษาพบว่าการสัมผัสไรฝุ่นเป็นเวลานานโดยเฉพาะในวัยเด็กเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นและโรคหอบหืด8

4 เคล็ดลับต่อกรกับไรฝุ่นโดยนักจุลชีววิทยาจาก Dyson

Dyson ทำฟาร์มไรฝุ่นของตัวเองเพื่อเก็บมูลมาวิจัยเกี่ยวกับสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นและทำความเข้าใจประสิทธิภาพเครื่องดูดฝุ่นในการกำจัดไรฝุ่นได้ดีที่สุดอย่างไร และรู้ถึงปัจจัยที่ทำให้ไรฝุ่นเติบโต

1. ปล่อยให้ไรฝุ่นหิวจนตาลาย – การลดจำนวนของเศษเซลล์ผิวหนังช่วยลดแหล่งอาหารหลักของไรฝุ่นจะช่วยยับยั้งไม่ให้พวกมันแพร่พันธุ์แบบทวีคูณในช่วงฤดูไรฝุ่น ควรดูดฝุ่นด้วยอุปกรณ์ที่มีระบบกรองขั้นสูงบนพื้นที่ที่อาจเป็นแหล่วแพร่พันธุ์ เช่น ที่นอนทั้งสองด้าน โซฟา และเบาะอื่น ๆ

2. จัดการระดับความชื้น – ไรฝุ่นสามารถสร้างความชุ่มชื้นด้วยตัวเองด้วยการดูดซับน้ำจากอากาศ การรักษาระดับความชื้นสัมพัทธ์ให้ต่ำกว่า 45% ที่อุณหภูมิห้อง9จะฆ่าพวกมันได้มาก ตากที่นอนและผ้าห่มบ่อย ๆ ระบายอากาศภายในห้องด้วยการเปิดหน้าต่าง หรือใช้เครื่องฟอกอากาศที่กรองด้วย HEPA อย่าลืมใช้พัดลมดูดอากาศหลังอาบน้ำ หรือขณะทำอาหารด้วยเช่นกัน เนื่องจากไรฝุ่นในบ้านสามารถอยู่รอดได้เมื่อมีการเพิ่มระดับความชื้นเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อวันเท่านั้น

3. ควบคุมอุณหภูมิ - ไรฝุ่นจะเจริญเติบโตได้ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ควรคุณดูดฝุ่นในบริเวณที่อุ่นกว่าบ่อยๆ เพื่อควบคุมปริมาณไรฝุ่น เช่น ตะกร้าสัตว์เลี้ยงโซฟาหรือที่นอน การซักผ้าปูที่นอนหรือเฟอร์นิเจอร์นุ่ม ๆ ด้วยอุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียสจะช่วยสลายสารก่อภูมิแพ้ได้เช่นกัน

4. เคล็ดลับ – อย่าลืมว่าไรฝุ่นและอุจจาระของมันมีขนาดเล็กมาก หากคุณเห็นฝุ่นนั่นหมายความว่าเจ้าไรฝุ่นอาจจะกำลังเติบโตอยู่ในบ้านคุณแล้ว!