ได้ฤกษ์กดปุ่ม "สุวรรณภูมิเฟส 2" โปรเจ็กต์ค้างท่อ "เพื่อไทย" สู่ "รัฐบาล คสช."

นับ 10 ปีที่ประเทศไทยขาดการลงทุนโครงการใหญ่มากระตุ้นระบบเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ หนึ่งในนั้นโปรเจ็กต์"สุวรรณภูมิเฟส2"ใช้เงินลงทุนกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท ก็เป็นอีกความหวัง แต่หลายรัฐบาลที่ผ่านมา ยังไม่สามารถดันโครงการให้ไปถึงฝั่งฝันได้ แม้ว่าจะบรรจุไว้ในแผนเร่งด่วน เพื่อรับมือผู้โดยสารทะลักสนามบินสุวรรณภูมิจนทะลุพิกัดที่รับได้ 45 ล้านคน/ปี

หลังผ่านการไฟเขียวจาก "ครม.-คณะรัฐมนตรี" เมื่อปี 2553 ภายใต้กรอบวงเงิน 62,503 ล้านบาท ในช่วงเวลาที่ผ่านมา "รัฐบาลเพื่อไทย" ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดจะเปิดประมูล หลังสนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้วันที่ 28 ก.ย. 2549 ผ่านมาไม่กี่ปีก็เต็มความจุอยู่ที่ 50 ล้านคน/ปี หลังท่องเที่ยวและสายการบินโลว์คอสต์เติบโตทะลุจุดเดือด

ครั้งนั้นแบ่งการประมูล 4 กลุ่มงาน แยกเป็น "กลุ่มงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1" วงเงิน 36,146 ล้านบาท ประกอบด้วยงานอาคารเทียบเครื่องบินรอง งานลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 และงานก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้

"กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร" วงเงิน 7,078 ล้านบาท ประกอบด้วยงานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก และงานอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก

"กลุ่มระบบสาธารณูปโภค" วงเงิน 2,564 ล้านบาท และ "กลุ่มติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสาร" หรือรถ APM วงเงิน 2,897 ล้านบาท เป็นรถรางวิ่งในอุโมงค์รับส่งคนอาคารผู้โดยสารกับอาคารเทียบเครื่องบินรอง ระยะทาง 1 กม.

จะเปิดยื่นซองกลางปี 2557 เมื่อได้ผู้รับเหมาจะสร้างเสร็จและเปิดใช้ภายใน ธ.ค. 2559 แต่สุดท้ายล่มกลางคัน หลังการเมืองเปลี่ยนขั้ว จนมาถึง "รัฐบาล คสช." ที่นำโครงการมาสานต่อ แต่เขย่าใหม่ยกพวง ปรับลดเงินลงทุนจากกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท อยู่ที่กว่า 5 หมื่นล้านบาท พร้อมซอยงานประมูลจาก 4 กลุ่มงาน เป็น 7 โครงการ

ประเดิมประมูลไปแล้ว 2 งาน คือ ก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ มี "บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์"เจ้าเก่าที่เหมาสร้างเฟสแรกไปแล้วเป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 12,050 ล้านบาท ใช้เวลา 780 วัน และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค มีกิจการค้าร่วม เอสจี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ เป็นผู้ก่อสร้าง 1,980 ล้านบาท

ทั้ง 2 งานจะเซ็นสัญญาวันที่ 25 ส.ค.นี้ มี "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ขุนพลฝ่ายเศรษฐกิจเป็นประธาน หลังลงพื้นที่จี้งานด้วยตัวเอง หวังดึงเม็ดเงินก่อสร้างจะเริ่ม ก.ย.นี้ ปลุกเศรษฐกิจฐานรากโค้งสุดท้ายให้คึกคัก

ขณะที่งานสัญญาที่เหลือ จะเริ่มทยอยกระบวนการประกาศประกวดราคาได้ในช่วงปีงบประมาณ 2560 ตามแผนที่ทั้งโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดบริการในปี 2562 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคน/ปี

ขอบคุณข่าวจาก  ประชาชาติธุรกิจ

www.prachachat.net