เคล็ดไม่ลับ LPN "เราอยู่กับความจริง"

ไม่บ่อยครั้งนักที่ดูโอ้ "ซีอีโอ" บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ LPN ทั้ง "ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข" และ "พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์" จะปรากฏตัวพร้อมกัน ท่ามกลางสื่อหลายฉบับ

แม้กระบี่ไร้เงาคู่นี้จะโลว์โปรไฟล์แค่ไหน แต่เบื้องหลังแล้ว กลับทำงานหนักขึ้น
 

เพราะตลาดคอนโดฯยุค 2016 กำลังเผชิญกับภาวะ "ท้องอืด" ตามท้องเรื่อง เพราะอสังหาฯกำลังถึงจุดเปลี่ยน (อีกครั้ง)
 

โชคดีที่เขาทั้งสอง "รู้ใจ" และ "รู้มือ" กัน ในฐานะเพื่อนเรียนอัสสัมชัญ ก่อนแยกไปเรียนต่างคณะที่จุฬาฯ คนหนึ่งเรียนวิศวะ คนหนึ่งเรียนสถาปัตย์
 

ทำให้ แอล.พี.เอ็น.ฯ ขับเคลื่อน "วิถี" ในคีย์เดียวกัน ที่หล่อหลอมมาจากประสบการณ์จริง

"ถ้านับอายุบริษัทก็ 27 ปีแล้ว สร้างคอนโดฯมาทั้งหมด 1.4-1.5 แสนยูนิต มาไกลกว่าที่คิด"
 

"ส่วนผมกับทิฆัมพรอายุ 67 ปี เราถอยมาอยู่เบื้องหลังนานแล้ว โดยให้มืออาชีพรุ่นใหม่ ๆ บริหารแทน" พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์ กรรมการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯกล่าว
 

แต่ก็มีเสียงท้วงว่า "เกษียณไม่จริง" ทำให้เขาหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

"เราพยายามทำตัวให้เกษียณ อยากใช้ชีวิตที่สบาย เผอิญผมเป็นคนสุขนิยม ชอบตระเวนกินของอร่อย เลยสุขง่าย หัวเราะง่าย ต่างกับทิฆัมพรที่ดูจะจริงจัง" พิเชษฐบอกถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง

พร้อมยอมรับว่า เขาทั้งสองยังเข้าออฟฟิศทุกวัน เพราะธุรกิจอสังหาฯทำแล้วหยุดไม่ได้ เหมือนขี่หลังเสือ และตลาดก็แข่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ 
 

"ร่างกายผมเหมือนเซตไว้แล้ว คือนอนเที่ยงคืน ตื่นตีสี่ อ่านหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ หกโมงเช้าเดินที่สวนลุมฯ แล้วมาทำงานที่พระรามสี่ ซึ่งอยู่ใกล้กับคอนโดฯที่พัก แม้ไปเมืองนอกก็ตื่นตีสี่"

กับโลกโซเชียลมีเดีย "ส่วนตัวใช้น้อย แต่ใช้กับงานเยอะ โดยเฉพาะวอตส์แอป เป็นเรื่องควบคุมก่อสร้าง ติดต่อแอดมิน หรือสั่งการทางวอตส์แอป จะสื่อสารถึงกันหมด ทั้งสถิติตัวเลข รายงานการประชุม รูมหนึ่งจุคนได้ 250 คน เรามีหลายรูม ทั้งรูมก่อสร้าง ลุมพินีเพลส ลุมพินีวิลล์ ฯลฯ สรุปมี 100 กว่ารูมที่สื่อถึงกัน"

เหมือนบริษัทใหญ่ ๆ ในสิงคโปร์จะทำงานด้วยวอตส์แอป ฉะนั้น "โลกอนาคตเราอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ แถมเร็วขึ้นอีก"
 

"การซื้อขายคอนโดฯผ่านเน็ตหรือออนไลน์ต้องมากขึ้นแน่ เราจึงต้องปรับเป้าปรับแผนไปเรื่อย ๆ ตามสภาพแวดล้อม"
 

ยืนยันว่า LPN จะไม่ลงทุนในต่างประเทศ แต่จะแตกทำเลไปทั่วทิศที่เอื้ออำนวย ในสไตล์ "ซิตี้ คอนโดฯ"
 

แม้ปี 2558 อสังหาฯจะชะลอตัวจากเศรษฐกิจภาพรวมทั้งในและต่างประเทศ จึงต้องระมัดระวังมาก ซึ่งรายได้รวมของบริษัทโตขึ้นกว่า 30% กำไรสุทธิโตกว่า 20%
 

เป้าหมายปี 2559 ก็เช่นกัน คือ "โตอย่างยั่งยืนและอยู่กับความจริง"
 

"เวย์เราเน้นรับผิดชอบเรื่องความเป็นอยู่และความรู้สึกของคนเพราะโอกาสของคนที่จะซื้อบ้านอยู่ได้มีไม่กี่หลัง นี่คือชีวิตจริง ๆ ของมนุษย์เงินเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ แอล.พี.เอ็น.ฯมาแต่เริ่มแรก"
 

เรื่องงานก่อสร้าง ออกแบบ ทำเล และราคาขาย ถือเป็น "จุดแข็ง" ที่บริษัทต้องรักษาไว้ และเป็นโอกาสของ LPN เช่นกันที่พฤติกรรมคนไทยเริ่มชอบอยู่อาศัยในตึกสูงกันแล้ว
 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้ต้องอ่านเกมให้ขาด ตัดสินใจให้ดีแบบถูกเวลาถูกจังหวะ ที่ดินแพงขึ้นถือเป็นต้นทุนต้นน้ำ สุดท้ายไม่เฉพาะผู้ประกอบการต้องแบกรับ ผู้บริโภคก็เหนื่อยไปด้วย
 

จากมุมมองอสังหาฯตอนนี้ตลาดมี 2 ระดับ คือ "ตลาดบน" ซึ่งแข่งขันดุเดือด แบรนด์ใหญ่ ๆ เล่นกันหนัก และ "ตลาดกลางลงล่าง" เราตั้งลำจับลูกค้ากลุ่มนี้มาแต่ต้น ทำให้ครองตลาดได้
 

"เคล็ดลับทำอสังหาฯให้สำเร็จอยู่ที่การบริหารต้นทุนและก่อสร้างให้เร็ว เราต้องควบคุมให้ได้หมด ส่วนสินค้าและกลุ่มคนซื้อก็มองตลาดอย่างความเป็นจริง อย่าไปฝืนหรือหวือหวา อย่างตอนนี้ตลาดเริ่มอิ่มตัว เราก็ปรับให้เพลาลง แต่ต้องไปข้างหน้า ปีหนึ่งก็เปิด 10-12 โครงการ" 
 

เมื่อโฟกัสครึ่งปีหลัง LPN ก็มาตามนัด เปิด 6 โครงการใหม่ 4 ทำเล ย่านสุขุมวิท, ชะอำ, เพชรเกษม และหัวหิน ราคาขาย 8.9 แสนบาท และ 1.55 ล้านบาทขึ้น 
 

ที่สำคัญ LPN เริ่มชิมลางตลาดคอนโดฯราคาแพงอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกแล้ว บนที่ดินเก่าในซอยสุขุมวิท 24 "เดอะ ลุมพินี 24" ราคาขายตารางเมตรละแสนกว่าบาท และมีแผนจะลุยโครงการใหม่อีกในเร็ว ๆ นี้ ด้วยราคาขายตารางเมตรละแสนกว่า ย่านทำเลมักกะสัน
 

เป็นอีกประสบการณ์ของเจ้าพ่อคอนโดฯ ที่เคยขายแต่ราคาล้านต้น ๆ ได้ขยับพรวดไปถึงแสนกว่าต่อตารางเมตร
 

นับเป็นความท้าทาย ท่ามกลางแรงซื้อที่เฉื่อยลง
 

ภายใต้กลยุทธ์อัดยาลดกรดแก้ท้องอืดในสไตล์ "โลว์โปรไฟล์ ไฮโปรฟิต"

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1469606821