Favorite
จะมีอะไร ดูไฮโซเท่า บัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านของเรา ระบุที่อยู่ว่า คือ ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) เรื่องนี้เอาจริงๆเป็นความภาคภูมิใจของใครหลายๆคนเลยที่มีคอนโดหรือบ้านอยู่ในซอยนี้ เพราะมันเหมือนสิ่งที่บอกฐานะและรสนิยมทางสังคมของคุณได้เป็นอย่างดี
ผมเชื่อว่า หากทำแบบสอบถาม คนรุ่นใหม่ว่า ทำเลไหน คือ ทำเลที่ไฮโซและอยากมีคอนโดอยู่มากที่สุด คำตอบที่ได้ต้องคือ ทองหล่อ อย่างแน่นอน
ทองหล่อ คือ ย่านที่เรียกได้ว่า เป็น Luxury Location อันดับต้นๆ ของประเทศ เต็มเปี่ยมไปด้วยไลฟ์สไตล์ครอบคลุมตลอดทั้งวัน ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารไทย-นานาชาติ สถานศึกษา โรงพยาบาล จนไปถึงสถานที่แฮงค์เอาท์ในตอนกลางคืน ด้วยความครบครันขนาดนี้ทำให้ในปัจจุบัน ราคาคอนโดเฉลี่ยบนถนนเส้นนี้ แทบจะหาราคาต่ำกว่า 10 ล้านไม่ได้เลย
ดังนั้นคนรุ่นใหม่ที่อยากอยู่แบบหล่อๆในย่านนี้ แทบจะเรียกว่า ได้แต่ฝันกันเลยทีเดียว... แต่ใครจะคิดว่า จู่ๆ มีโครงการใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ เปิดขายในราคาดีจนต้องขยี้ๆ ตา 2 ครั้ง ว่าจริงหรือเปล่า
Chapter Thonglor 25
ใครจะคิดว่า...ราคาเพียงเท่านี้
ก็อยู่แบบหล่อๆ ใจกลางทองหล่อได้แล้ว
►ทำเล ใจกลางทองหล่อแต่ได้ความเป็นส่วนตัวแบบบ้านเดี่ยว โครงการ Chapter Thonglor 25 อยู่ในซอยทองหล่อ 25 ซึ่งซอยนี้นอกจากจะมีข้อดีคือ ได้ความเป็นส่วนตัวสูงแล้วยังเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะไปออกสุขุมวิทซอยต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น พร้อมพงษ์ (สุขุมวิท 39) เอกมัย อโศกหรือเชื่อมไปยังถนนเพชรบุรีได้อีกด้วย
ส่วนถ้าช่วงเวลาเร่งด่วนเน้นความไว บอกเลยว่ารถสาธารณะจะช่วยได้มาก เพราะห่างจาก ►BTS สถานีทองหล่อ ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งทางโครงการมี shuttle bus คอยบริการรับส่งทุกชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 6.00-18.00 น. แถมในซอยทองหล่อเองยังมีวินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่คอยให้บริการตลอดเวลา หรือจะใช้บริการเรียก Grab ก็ง่ายดาย เพิ่มเติมคือเรือโดยสารคลองแสนแสบ ท่าทองหล่อ โดยห่างจากโครงการ 150 เมตร
วันนี้โครงการเสร็จพร้อมเข้าอยู่และเปิดให้ชมกันแล้ว เราได้โอกาสดีที่จะมารีวิวกันเลย โครงการ Chapter Thonglor 25 เป็นคอนโด Low Rise บนพื้นที่ 2-3-33.8 ไร่ สูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 288 ยูนิต สามารถจอดรถได้ 49% โดยแบ่งเป็นแบบ Automated Parking 37% และ Conventional 12%
โครงการนี้มาในสไตล์ที่คนรุ่นใหม่เห็นแล้วจะต้องชอบทุกคนนั่นก็คือ Minimal Luxury หรูหราดูแพงแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความเรียบง่าย อาจเพราะโทนสีที่นุ่มนวล และการดีไซน์ด้วยเส้นสายที่โค้งมน ทำให้ดูอบอุ่นสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศของการพักผ่อนได้อย่างแท้จริง
บริเวณทางเข้าที่มีการแบ่งแยกทางซ้ายไปอาคาร A และทางขวาไปอาคาร B ซึ่งแทนที่จะทำเป็นผนังปิดทึบที่อาจทำให้รู้สึกอึดอัด ก็เพิ่มลูกเล่นด้วยการทำเป็นระแนงสีขาว ตัดกับการใช้สี Copper เพิ่มความโดดเด่น ซึ่งการดีไซน์แบบนี้จะช่วยให้ดูโปร่งโล่ง แต่ก็ยังพรางสายตาจากภายนอก เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านได้ดีทีเดียว
สำหรับ Facilities ไม่รู้จะสตาร์ทจากจุดไหนเลย ไม่ใช่อะไรนะคือแบบมีเยอะมาก และเป็นไฮไลท์เกือบทุกจุดก็ว่าได้ ที่สำคัญ Facilities บางอันยังเปิดให้ใช้บริการตลอด 24 ชม. ทำให้ไม่ว่าจะกลับจากที่ทำงานดึก หรือคนที่เป็นสายกลางคืนน่าจะชอบกัน เริ่มกันที่ Chapter Hall หรือ Lobby โดยมีทั้งสองอาคาร จัดมาให้ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และโซฟาหลากหลายมุม เพื่อรองรับแขกที่มานั่งรอ และลูกบ้านที่อยากนั่งเล่น สวยแบบนี้ สาย Youtuber/Blogger/Reviewer ถ่ายรูปกันได้สวยเลย
ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ของความเรียบหรู ด้วยการออกแบบประตูซุ้มโค้งตามจุดต่างๆ ขณะที่โทนสีจะเป็นสีขาวคลีนๆ สะอาดตา ตัดขอบสี Copper แต่เพิ่มเติมสีเอิร์ธโทนจากเฟอร์นิเจอร์ สร้างความสวยงามแปลกตา มาพร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยทำให้บริเวณนี้น่านั่งเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ถัดมาจะเจอกับ The Capsule ที่มีทั้งแบบโซฟาตัวยาวให้นั่งทำงานได้ตามปกติ หรือจะเลือกมุมที่เป็น Napping Space อยากจะนั่งอ่านหนังสือ นอนเล่นชิลๆ จากที่อยู่แต่ในห้องก็มาเปลี่ยนบรรยากาศที่ห้องนี้ได้
ตรงข้ามเป็น Co-Function Space อีกหนึ่งมุมที่ให้เลือกนั่งเล่น หรือนั่งทำงานแบบมีมุมที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
หรือถ้าอยากจะสังสรรค์ก็มีมาให้เลือกถึง 2 ห้อง 2 สไตล์ ได้แก่ The Social Club เป็นห้องปิดสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว และยังสามารถนั่งดูหนังดูซีรีส์ได้อีกด้วย
อีกห้องคือ Fine & Dine Club เผื่อวันไหนอยากจะนัดเพื่อนหรือลูกบ้าน มาปาร์ตี้ทำอาหารกินร่วมกัน
ต่อด้วยห้อง Fitness อุปกรณ์ครบครัน สามารถออกกำลังกายได้ครบทุกสัดส่วน ล้อมรอบไปด้วยกระจก มองเห็นวิวภายนอกทั้งสวนและสระว่ายน้ำ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด
ออกมาในส่วนของ Outdoor ที่พลาดไม่ได้เลยต้องยกให้ The White Marble Pool ปูพื้นด้วยหิน Limestone สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง รวมถึงยังมี Jacuzzi และ Water Chanel สำหรับคนที่อยากนั่งเล่นแช่น้ำสบายๆ
เท่านั้นไม่พอยังมี Co-Creating Deck เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ชอบนั่งเล่นรับลมข้างนอก ซึ่งตอนเย็นอากาศน่าจะดีเลยหล่ะ
หรือถ้าอยากได้มุมสงบแบบ Outdoor พร้อมกับวิวสวนสีเขียว สามารถขึ้นไปใช้ The Garden ได้ที่ชั้น 3 ของตึก A หรือ The Sunset Deck ที่ Rooftop ตึก B ได้บรรยากาศที่แตกต่างไปอีกแบบ
เกือบท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ใครสายคาเฟ่มามุงกันตรงนี้เลย เพราะโครงการนี้ยก Real Café มาไว้ในคอนโดให้แล้ว! จะนั่งกินที่นี่ ซื้อขึ้นไปกินที่ห้อง หรือซื้อก่อนออกไปทำงานก็สะดวกสบาย อีกทั้งยังตกแต่งได้น่ารักน่าถ่ายรูปมาก ไม่ว่าจะเลือกมุมไหนก็ถ่ายออกมาสวยแน่นอน แถมยังมีงานอาร์ตจาก "Gongkan" อยู่อีกด้วย
ปิดท้ายคือทางลัดที่ด้านหนึ่งของโครงการอยู่ติดถนนเลียบคลอง สามารถเดินไปยังท่าเรือทองหล่อได้โดยใช้เวลาไม่นาน ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วง ต้องสแกนบัตรเข้าออกเท่านั้น พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
มาถึงตรงนี้อยากให้ทุกคนตั้งใจเลย เพราะมีดีเทลทุกตารางเมตรโดย โครงการ Chapter Thonglor 25 ขายแบบ Fully Furnished กล้าพูดเลยว่าให้ตามห้องตัวอย่างของจริง ส่วน Floor to Ceiling สูง 2.55 เมตร โดยที่นี่มีห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่
Studio ขนาด 28.91 -29.30 ตารางเมตร |
1 Bedroom ขนาด 34.62 -34.97 ตารางเมตร |
1 Bedroom Plus ขนาด 42.08 -61.85 ตารางเมตร |
2 Bedroom ขนาด 57.63 -61.17 ตารางเมตร |
โดยจะพาไปดูห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบ เริ่มที่ ►1 Bedroom ขนาด 34.88 ตารางเมตร สิ่งแรกที่ได้เลยคือ Digital Door Lock จาก Hafele เหมือนกันทุกห้อง พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ ห้องครัว ก่อนเป็นอย่างแรก เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อนออกจากกัน พื้นที่ตรงนี้กว้างพอสมควร ทำให้เข้ามาแล้วไม่รู้สึกอึดอัด
เคาน์เตอร์ครัวอยู่ทางขวามือ และตู้เก็บของด้านบนที่บิวท์มาให้เรียบร้อย เก็บของกินของใช้ได้เยอะ ตัวท็อปเคาน์เตอร์ใช้วัสดุ Solid Surface มีความแข็งแรง ด้านหลังกรุด้วยกระจกเงาสีชา เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนซิงค์ล้างจานจากแบรนด์ MEX มาพร้อมกับก๊อกน้ำ แบรนด์ Teka สายเป็น Silicon สีดำ มีความพิเศษตรงปรับทิศทางของก็อกน้ำได้ ช่วยให้ใช้งานสะดวกและ เตาเป็นแบบ Induction 2 หัว พร้อมติดตั้ง Hob & Hood ทั้งหมดนี้จากแบรนด์ Hafele อีกทั้งด้านบนเคาน์เตอร์ยังติดไฟเพิ่มความสว่างมาให้ด้วย
ด้านล่างตรงกลางเว้นพื้นที่ว่างไว้ สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ซ้ายมือวางไมโครเวฟ และมีลิ้นชักให้เก็บของเพิ่มอีกประมาณหนึ่ง เห็นบิวท์อินแบบไหนเราจะได้แบบนั้นเลย ด้านล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า ด้านบนเป็นตู้เก็บของ นอกจากเว้นว่างไว้วางตู้เย็นแล้ว ที่เหลือคือบิวท์มาให้เต็มพื้นที่ เพื่อให้เก็บของได้เยอะที่สุด
ถัดไปที่ ห้องนั่งเล่น สะดุดตากับพื้นก่อนเลย ส่วนตัวชอบพื้นลายก้างปลามาก ซึ่งมักจะมีแต่ในคอนโดหรูระดับ Luxury คือทำให้ห้องดูมีมิติยิ่งขึ้น โดยซ้ายมือวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง กำลังพอเหมาะ เรียบง่ายด้วยโทนสีขาว แต่เพิ่มลูกเล่นของขาโต๊ะและขาเก้าอี้เป็นสี Copper แน่นอนว่าโครงการก็ให้มาด้วยเช่นกัน
เขยิบเข้าไปด้านในสุดของห้องเป็นพื้นที่รีแล็กซ์ผ่อนคลาย ที่เชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยให้มุมนี้ดูโปร่งโล่ง โดยได้โซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมชั้นวางทีวีที่โครงการก็ให้มาอีกแล้ว ออกแบบดีไซน์ทั้งโทนสีของหน้าบาน และมีพื้นผิวเป็นเส้นสายคือสวยงามมาก
ซึ่งยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกลาง และโต๊ะข้างโซฟาอีกได้แบบสบายๆ โดยขาโต๊ะยังคงเข้าธีมเป็นสี Copper เหมือนเดิม นั่นหมายความว่าลูกบ้านก็จะได้ของสองชิ้นนี้อีกแล้วววว
มาถึง ห้องนอน ที่อยากนำเสนอสุดๆ เป็นแบบประตูปิดทึบ สร้างความเป็นส่วนตัวเวลามีเพื่อนหรือแขกมาหาที่ห้อง และเปิดประตูปุ๊บก็เจอทีเด็ดปั๊บ Walk-in Closet สายแฟชั่นใครชอบแต่งตัวคือเห็นแล้วแฮปปี้แน่นอน ไม่ต้องซื้อห้องใหญ่ไม่ต้องซื้อสองห้องนอน ก็มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่กั้นด้วยกระจกสีชา
บิวท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้สุดเพดานเป็นรูปตัวแอล ครบทุกความต้องการ ราวแขวนเสื้อ ราวแขวนชุดยาว ช่องวางของหลายช่องทั้งด้านบนและด้านข้าง ลิ้นชักใส่เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้สตูลเข้าชุด
ติดกันเป็น ห้องน้ำ โดยบริเวณอ่างล้างหน้าจะกรุผนัง เป็นกระเบื้องลายอิฐสีขาวดูมินิมอล แต่เพิ่มความหรูด้วยการตัดขอบสี Copper เช่นเดียวกับก๊อกน้ำ สายฉีดชำระ ที่ใส่ทิชชู่ และฝักบัว ซึ่งเป็นสีเดียวกันแบบสั่งทำทั้งหมด อีกทั้งตัวกระจกด้านหลังยังมีช่องให้ใส่ของอีกต่างหาก พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกแยกส่วนเปียกส่วนแห้งพร้อมใช้งาน
ไปกันต่อที่มุมพักผ่อนวางเตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะข้างเตียง และนอกจากได้ทั้งหมดที่เอ่ยมานั้น ทางโครงการยังให้ที่นอนเพิ่มด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์คือ หน้าต่าง แบบเปิด-ปิดบานใหญ่เหมือนประตูเลย รับลมเย็นธรรมชาติแบบจัดเต็ม ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยตัวหน้าต่างมีความแข็งแรงทนทาน และที่สำคัญคือทำราวกันตกมาให้เรียบร้อย
มาดูกันต่อที่ห้องแบบ ►2 Bedroom ขนาด 58.13 ตารางเมตร เปิดเข้ามาจะเจอกับ ห้องครัวแบบปิด โดยลักษณะจะคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แต่มีขนาดกว้างขวางกว่าพอสมควร ช่วยกันทำอาหารสองคนก็ยังไม่รู้สึกคับแคบ
ซึ่งนอกจากพื้นที่แล้ว เคาน์เตอร์ครัวเองก็เพิ่มไซส์ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้ายังมาครบเหมือนเดิม ฝั่งตรงข้ามก็บิวท์อินทั้งตู้เก็บรองเท้าและเก็บของ เพิ่มเติมคือช่องว่างในการวางตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับกลุ่มครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน
เชื่อมต่อกับ Common Area รวมพื้นที่นั่งกินข้าวซึ่งได้โต๊ะขนาด 4 ที่นั่ง ซึ่งรูปแบบจะเหมือนกับห้องที่เอ่ยมาข้างต้น แต่ได้ขนาดใหญ่ขึ้น เดินเข้าไปอีกนิดคือมุมนั่งเล่น ได้โซฟาตัวแอลขนาด 3 ที่นั่ง เอนกายนอนดูหนังชิลๆ พร้อมโต๊ะกลางขนาดกำลังพอเหมาะ ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้พร้อม
แต่ที่รู้สึกชอบการออกแบบมุมนี้เป็นพิเศษ ตรงที่ให้ช่องแสงมารอบทิศทาง ที่นอกจากตรงระเบียงแล้ว ยังมีหน้าต่างบานใหญ่อีก 2 จุดเพิ่มเข้ามา ซึ่งยังคงเป็นแบบบานเปิดและมีราวกันตกให้เช่นเดิม ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง เวลาเปิดรับลมก็ช่วยให้อากาศถ่ายได้สะดวก
วกกลับมาตรงทางเดินที่เชื่อมไปยังส่วนอื่นๆ ของห้องกันต่อดีกว่า โดยจะเห็น ห้องนอนที่ 2 อยู่ทางขวามือ ซึ่งโครงการได้ให้หัวเตียงพร้อมที่นอนขนาด 3.5 ฟุต โต๊ะข้างเตียง รวมถึงตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ก็ยังมีสเปซเหลือๆ บวกกับช่องแสงจัดเต็ม ทำให้อยู่แล้วไม่รู้สึกคับแคบเลย
ตรงข้ามห้องนอนเล็กคือ ห้องน้ำ ให้พื้นที่ทั้งในส่วนบริเวณล้างหน้าและส่วนอาบน้ำพอๆ กัน ซึ่งแยกแต่ละส่วนของการใช้งานมาให้ชัดเจนด้วยฉากกั้น
จบแบบสวยๆ ด้วย Master Bedroom เหมาะสำหรับคนที่เน้นความโปร่งสบายของห้อง เพราะจะได้ Walk-in Closet เป็นรูปตัวแอลแบบเปิดโล่ง หน้าบานของตู้เสื้อผ้าเป็นกระจกเงาสีชา และยังมีบิวท์อินตู้เสื้อผ้าให้อีกจุดหนึ่งตรงประตูทางเข้า รับประกันเลยว่าใส่เสื้อผ้าได้เยอะชัวร์
ติดกันเป็น ห้องน้ำ ที่ขนาดใหญ่จริงไม่หลอกตา ที่นอกจากได้สุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำข้างนอกแล้ว ยังได้อ่างอาบน้ำอีกด้วย! นอนแช่น้ำแบบฟินๆ สบายๆ
ส่วนพื้นที่นอนพักผ่อน วางเตียงขนาด 5 ฟุต กำลังพอเหมาะพอดี โดยมีสเปซให้วางโต๊ะหัวเตียงได้อีกฝั่งละหนึ่งตัว ริมสุดของผนังเป็นหน้าต่างบานใหญ่เพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้ทั่วทุกมุมห้อง
►สรุป
คอนโดสไตล์เท่ๆแบบ Minimal แถมได้ความ Privacy แบบสุดๆ มาพร้อม Facilities สวยจัดเต็ม ถ่ายรูปโชว์เพื่อนได้ทุกมุมของคอนโด ใครจะเชื่อว่า โครงการ Chapter Thonglor 25 จะมีราคาเริ่มต้นเพียง 3.99 ล้านบาท* เท่านั้น บอกเลยว่า ใครได้อ่านบทความนี้แล้วยังไม่ติดต่อโครงการไป คุณช้าไปแล้ว !!!
หากใครสนใจ ก่อนเข้าไปชมโครงการ กดลงทะเบียนผ่านที่นี่เลยจะได้ส่วนลดเพิ่มด้วย https://bit.ly/397pRjt
พิเศษโปรโมชั่น จองเริ่ม 20,000 บ. พร้อมเข้าอยู่ แถมอยู่ฟรี 3 ปี* ไม่พอยัง FREE ALL ฟรี! LIVING SET สูงสุด 18 รายการ และรับเพิ่ม iPad Pro* เริ่ม 3.99 ลบ.*
Line@ คลิก : https://lin.ee/uJJlV5 หรือ @chaptercondominium
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ดีๆๆๆๆๆๆ มากๆเลย หาอ่านแบบนี้มานานแล้ว
ชอบมากเลยครับ บทความเเนวนี้ ไม่น่าเบื่อ
ข้อมูลดีมาก ระเอียดมากครับ
เนื้อหาดีค่ะ
ได้ความรู้