Favorite
หลายๆ คนมักจะเกิดปัญหา เวลาแต่งห้องหรือทำบ้านครั้งหนึ่ง จากที่คิดว่างบประมาณที่ตั้งไว้ คือเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้เรียบร้อย ยังไงก็ไม่เกินนี้แน่ๆ แต่พอได้ลงมือปฏิบัติจริง มักจะบานปลายเลยเถิดทุกที ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น สาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไรกันแน่?!
1. ตั้งงบสวนทางกับความต้องการ
ไม่ได้หมายความว่าการตั้งงบประมาณจะต้องเป๊ะเท่ากับห้องที่เราจะแต่ง แต่ก็ไม่ควรตั้งให้ถูกเกินความเป็นจริง ยกตัวอย่าง อยากบิวท์อินทั้งหลัง จากผนังเป็นไม้ ขอตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สุดเพดาน พร้อมตู้เก็บของอีกหนึ่งชุด ปูพื้นไม้แทนกระเบื้อง แต่มีงบแค่หนึ่งแสน ซึ่งความเป็นจริงราคาสูงกว่านั้นพอสมควร และจะมาเรียกแบบนี้ว่างบบานปลายไม่ได้
เราควรศึกษาก่อนขั้นต้นว่าสิ่งที่ต้องการประมาณนี้ราคาเท่าไหร่ หลังจากนั้นอาจจะบวกลบเพิ่มไม่เกิน 50,000-100,000 บาท เผื่อเวลาสถาปนิกหรือช่างคิดราคาออกมาจะได้ไม่หนีห่างกันเท่าไหร่ ไม่ใช่แบบคิดไปเองหรือตั้งราคาทิพย์แบบนี้ก็ไม่ดี
2. ใจโลเลเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
ทุกขั้นตอนมีค่าใช้จ่ายเมื่อมีการออกแบบเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะปรับแก้ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง หลังจากนั้นจะต้องเสียเงินเพิ่มในการแก้แบบ ยิ่งถ้าถึงขั้นลงมือสร้างต่อเติมแล้วและเกิดไม่ถูกใจ ก็จะต้องมีการรื้อทำใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วราคาก็จะถูกบวกเข้าไปอีก ทั้งค่าของที่ถูกเปลี่ยนและค่าเสียเวลา ดังนั้นควรตัดสินใจให้ดีและจบตั้งแต่การออกแบบ
3. ไม่เลือกวัสดุ & ไม่ยับยั้ง
ถ้าอันไหนที่นักออกแบบหรือช่างบอกให้เราไปเลือกของด้วยตัวเอง แนะนำว่าอย่าบ่ายเบี่ยง เพราะถ้าให้คนอื่นไปเลือกแทน เกิดได้ของไม่ถูกใจหรือผิดแบบไปจากที่คิด ก็ต้องมาคอยเปลี่ยนหรือเปลี่ยนไม่ได้ก็สูญเงินเปล่าอีก แต่พอเราไปซื้อของแล้วก็ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ใช่เห็นอันนี้สวยกว่าก็เปลี่ยน อันนั้นถูกใจก็ซื้อ โอเคล่ะถ้าคุ้มค่าก็น่าสนใจ แต่ถ้าแพงกว่าก็ต้องคิดให้หนักเลย ไม่งั้นงบบานปลายแน่นอน
4. ช่างไม่มีความเป็นมืออาชีพ
ในกรณีที่เราจ้างช่างผู้รับเหมาเอง ไม่ได้มีการจ้างบริษัทรับออกแบบ และดันได้ช่างที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ สิ่งที่จะตามมาคือ การเบิกเงินซื้อของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปูน หิน ทราย หรืออะไรก็ตาม ที่ถ้าช่างคำนวณไม่ดี หรือใช้แบบไม่รักษาของ ไม่ก็แอบเก็บไว้ใช้งานอื่น ก็จะมีการขอซื้อเพิ่มอยู่เรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้สิ้นเปลืองอย่างมาก ยิ่งถ้าช่วงที่แต่งห้องหรือสร้างบ้าน วัสดุอุปกรณ์มีการขึ้นราคา เงินในกระเป๋าของเราจะยิ่งเจ็บหนัก จึงควรเลือกช่างให้ดีไม่ก็เลือกเป็นบริษัท ที่มีการเซ็นสัญญาชัดเจนจะโอเคกว่า
การแต่งห้องแต่ละทีและงบบานปลาย เป็นเรื่องปกติก็คงไม่ผิดเท่าไหร่ เพราะหน้างานอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ดีไม่ควรให้ราคาทะลุเป้าเกินความจำเป็น เกรงว่าจะกลายเป็นเสียเงินโดยใช่เหตุซะเปล่าๆ
ขอบคุณที่คอยอัพเดทข่าวสารให้ทราบค่ะ
น่าอยู่มากเลย
ข้อมูลดีมาก ระเอียดมากครับ
ได้ความรู้มากๆเลยครับ