"โอซาก้า ศรีราชา"

พูดถึงจังหวัดทางภาคตะวันออกอย่างชลบุรี ทุกคนคงนึกถึง พัทยา บางแสน กันแน่นอน เพราะเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ใครๆหลายคนเคยไปหรืออยากไปเที่ยวกัน แต่ถ้าพูดถึง ศรีราชา อำเภอที่อยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง 120 กม. หลายคนคงรู้จักและได้ยินชื่อ ศรีราชา อยู่แล้ว แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า....

ขอบคุณภาพจาก srirachaoutlook.com

-ทำไมมีคนเรียกที่นี่ว่า ลิตเติ้ลโอซาก้า หรือ ลิตเติ้ลแจแปน

-ทำไมรัฐถึงทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายกรุงเทพ-ระยอง เป็นที่แรก (ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว)

-ทำไมต้องทำมอเตอร์เวย์สาย ชลบุรี - พัทยา - มาบตาพุด

-ทำไมศรีราชากำลังจะกลายเป็นเขตปกครองพิเศษแบบกรุงเทพและพัทยา

-ทำไมสนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยอง จึงถูกทำให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์

ทั้งหมดที่กล่าวมาเกิดขึ้นมีส่วนมาจาก เมืองที่ชื่อว่า "ศรีราชา"

วันนี้ ศรีราชา ไม่ได้เป็นแค่อำเภอธรรมดาเหมือนที่เราเห็นตามต่างจังหวัดทั่วๆไปแล้ว ศรีราชาวันนี้ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศไทยมากๆ

ไม่น่าเชื่อว่า วันนี้ศรีราชา จะโตแบบก้าวกระโดดได้ขนาดนี้

วันนี้ถ้าใครผ่านไปศรีราชาคงตกใจ เพราะที่นี่อย่างกับไม่ใช่เมืองไทยไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน ทุกร้านค้า จะเจอภาษาญี่ปุ่นและคนญี่ปุ่นเต็มไปหมด ตึกสูงที่นี่ ผุดขึ้นมายังกับกรุงเทพ ห้างสรรสินค้าต่างๆทยอยมาเปิดมากขึ้นเรื่อยๆ เอาง่ายๆ มันเจริญเร็วจนคนศรีราชาบ่นว่ารถติดสุดๆ ไม่ต่างกับเมืองหลวงในกรุงเทพ มันเกิดขึ้นได้ยังไงที่นี่

เราได้มีโอกาสคุยกับคนพื้นที่ เลยได้ข้อมูลมาว่า มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เค้าบอกเราว่า จุดเริ่มต้นมันมาจาก ท่าเรือแหลมฉบัง หลายคนอาจสังสัยว่า แค่ท่าเรือ มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ขนาดนี้  

ขอบคุณภาพจาก prachachat.net

ต้องบอกก่อนว่า ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นท่าเรือน้ำลึก อันดับต้นๆของโลกนะครับ เค้าจะวัดว่าเป็นอันดับไหน เค้าดูจากความสามารถในการถ่ายเทสินค้าได้ครับ ที่นี่มีกำลังรับขนส่งได้ราว 10 ล้าน TEUs ( 10 ล้านตู้ 20 ฟุต) ต่อปี ปัจจุบัน กำลังพัฒนาเฟส 3 อีก 4,000 กว่าไร่ เพราะไม่สามารถรับการขนส่งได้พอเพียงในปัจจุบัน ซึ่งยิ่งจะทำให้ศรีราชามีการพัฒนาที่มากกว่านี้อีกหลายเท่า

ปัจจุบัน ศรีราชา เป็นศูนย์กลางด้าน Logistic ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย การที่เป็นจุดขนส่งแบบนี้ ทำให้มีโรงงานจำนวนมากเข้ามาตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าส่งออก หรือ นำเข้าวัตถุดิบต่างๆเข้ามาผลิตสินค้า เพราะจะสามารถทำได้สะดวกรวดเร็วกว่าและลดต้นทุนด้านการขนส่งได้เยอะมากๆ

ทำให้ที่นี่เกิดนิคมอุตสาหรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง  นิคมอุตสาหกรรมเหมราช นิคมอุตสาหกรรมสหพัฒน์ฯ นิคมนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด  นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ฯลฯ

ขอบคุณภาพจาก acnews.net

พอมีนิคมก็มีก็มีคนเข้ามาทำงานโดยเฉพาะผุ้บริหารและหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานจำนวนมาก ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ 10,000 กว่าคน ซึ่งถือว่ามากพอๆกับย่านใจกลางสุขุมวิท อย่าง พร้อมพงศ์ ทองหล่อ เลยทีเดียว

แล้วคนญี่ปุ่นมาอยู่เยอะแล้วไง...

แม้ความเจริญของศรีราชาจะเกิดจากคนไทยเป็นหลัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนญี่ปุ่น นี่แหละครับ มีส่วนช่วยให้ศรีราชาพัฒนาแบบก้าวกระโดด

บางคนถึงกับเรียกที่นี่ว่า "ลิตเติ้ล โอซาก้า"

กูรูในวงการอสังหาริมทรัพย์ว่ากันว่า ถ้าย่านไหนมีชาวต่างชาติอยู่เยอะ ราคาอสังหาฯถึงจะขยับสูงได้เร็วกว่าปกติ คุณไปดูได้เลย ย่านไหนมีแต่คนไทยราคานี่ขยับช้ามาก นอกจากราคาจะสูงแล้วยังมีการพัฒนาความเจริญรอบๆอย่างรวดเร็วอีกด้วย

คนญี่ปุ่นเป็นคนชอบสังสรรค์และใช้เงินหาความสุขให้ชีวิต ดังนั้นจึงเกิดการหมุนเวียนของรายได้ในศรีราชาสะพัดมากๆ เกิดร้านอาหาร แหล่งท่องเทียวยามค่ำคืน และห้างสรรพสินค้าสไตล์ญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะค่าที่พัก ที่คนญี่ปุ่นสามารถเช่าได้ในราคาสูงมาก เพราะบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินค่าที่พักให้พนักงาน ใครเคยมีคอนโดให้เช่าแถวสุขุมวิทจะรู้ว่า คนญี่ปุ่น จะเป็นชาติที่ได้ค่าเช่าสูงที่สุด ถ้าเทียบกับค่าเช่าของชาติอื่นๆทั้งหมด

อัตราการค่าเช่าของที่ศรีราชาสูงจนน่าตกใจคือขนาด 1 ห้องนอน ที่นี่สามารถให้เช่าได้ราคา 30,000-40,000 บาทสบายๆ ซึ่งผลตอบแทนแบบนี้ ถือว่าสูงกว่าย่านสุขุมวิทของกรุงเทพอีกนะครับ

บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้า เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ จึงได้เข้ามาลงทุนเพื่อรองรับเม็ดเงินคนญี่ปุ่น ทั้งรูปแบบคอนโดมีเนี่ยม โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยพบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินขยับเป็น 3 เท่าตัวจาก 1 แสนบาทต่อตร.ว. ขึ้นเป็น 3 แสนบาทต่อตร.ว.  ซึ่งแพงๆพอๆกับย่านสำคัญๆในกรุงเทพไปแล้ว !!!

ใครที่กำลังสนใจลงทุนในอสังหาริททรัพย์ นี่จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่ซื้อคอนโดแล้วต้องการปล่อยเช่าให้ได้ผลตอบแทนสูงๆ 6% ขึ้นไป หนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจก็คือ

Knightsbridge The Ocean Sriracha

ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา

โครงการนี้ตั้งอยู่ ติดถนนสุขุมวิท (ก่อนถึง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา)   โดยอยู่ในโซนที่สามารถเดินไปสู่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้โดยรถไม่ติด เพราะไม่ต้องวิ่งผ่านจุดที่รถติดในเมืองศรีราชา อีกทั้งยังสะดวกในการเดินทางเข้าเมืองศรีราชาได้อย่างรวดเร็ว การจราจรที่บริเวณนี้ค่อนข้างโล่งตลอดทั้งวัน

โครงการนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีจุดเด่นคือ คุณจะสามารถเห็นวิวทะเลด้านหน้าได้แบบเต็มๆ ส่วนด้านหลังก็สามารถเห็นวิวภูเขาได้อีกด้วย เรียกว่า ฮวงจุ้ย ดีมากๆ

นอกจากนี้ตัวโครงการยังออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ชาวญี่ปุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Facility และรูปแบบการบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อ่างน้ำแบบจากุซซี่ พร้อมที่นั่งอาบน้ำแบบญี่ปุ่นให้ทุกห้อง, ระบบ Hi Speed Internet broadband, ช่องรายการญี่ปุ่น, ระบบ sleep mode พร้อมปุ่มขอความช่วยเหลือ, Homemade kitchen ร้านอาหารที่พร้อมสั่งได้ตลอด, บริการ concierge ระดับโรงแรม และบริการรับฝากขาย-เช่าโดยทีมเอเจ้นท์มืออาชีพของบริษัทญี่ปุ่น

Facilities โครงการจัดเต็มสำหรับไลฟ์สไตล์ชาวญี่ปุ่นกันเลย มีทั้งจุดชมวิว, ออนเซ็น, ฟิตเนส และสระว่ายน้ำชั้น 35 ให้คุณได้เสพย์วิวสวยๆกันแบบเต็มๆ

ส่วนของห้องพักมีหลายแบบให้เลือก พร้อมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้ด้วย

ที่สำคัญทุกห้องมีอ่างอาบน้ำให้หมดทุกห้องครับ นี่ถือว่าสำคัญมากๆเพราะคนญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับการแช่อ่างอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายครับ

การพัฒนาของ ศรีราชา ไม่ได้เกิดจากการที่เป็นหัวเมืองหรือเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งลักษณะแบบนั้นจะทำให้มีช่วง Hi Season - Low Season ผู้คนจะมาจากคนต่างถิ่นที่มาเที่ยวในเวลาวันหยุดแล้วก็ไป การเข้าพักอาศัยจะไม่ได้ต่อเนื่อง

แต่ที่ศรีราชา เกิดจาการพัฒนาโดยพื้นฐานมาจากการเป็นเมืองอุตสาหรรม ดังนั้น คนที่อยู่ที่นี่จะอยู่ประจำ เนื่องจากต้องทำงานกันที่นี่ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่สามารถเช่าที่พักได้ในราคาค่อนข้างสูงและยังมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีมากครับ โครงการ ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชียน ศรีราชา ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้สนใจลงทุน โดยมีข้อดีที่เหนือกว่าดังนี้

1. มั่นใจได้มากกว่ากับ Guarantee Yield 6% นาน 5ปี

2. ได้รับเหนือกว่า ด้วยผลตอบแทนที่ดี และสม่ำเสมอ

3. สบายกว่า มีคนดูแลให้ ไม่ต้องลงแรง บริหารโดยบริษัทชั้นนำ

4. อุ่นใจกว่า คัดเฉพาะผู้เข้าพักระดับคุณภาพ ให้ห้องพักของคุณยังดูดี มีมาตรฐานอยู่เสมอ

สิทธิ์จำนวนจำกัด!!!

ราคาเริ่มเพียง 2.9 ล้าน*
 

โดยงานจะตามวันและสถานที่ดังนี้

15 ธ.ค. ที่ Pacific Park Hotel

17 ธ.ค. Grande Centre Point Terminal 21

พิเศษ! เฉพาะผู้ที่ได้รับอีเมลนี้ รับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท*
 

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 061 419 0999​

ลงทะเบียนรับส่วนลด คลิกที่นี่