รายการโปรด
ข้อมูลโครงการ
฿ 3,590,000
44
1
2563
รูปภาพโครงการ
วิดีโอรีวิว
เกี่ยวกับโครงการ
แค่โลเคชั่นก็สุดยอดแล้วครับ ทั้งติดรถไฟฟ้า ทั้งตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ไม่ใช่แค่โลเคชั่น Very Good เท่านั้น "Life ลาดพร้าว Valley" ยังจัดเต็ม จัดหนัก ส่วนกลางแบบที่เรียกได้ว่า ไม่ต้องออกไปไหนก็ Happy นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมของฟังชั่นห้องที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากๆ ที่สำคัญคือ ราคาที่เริ่มต้นเพียง 3 ล้านกว่าบาท #คุ้มแบบนี้ต้องจัดเลยครับ
“Life” พรีเมี่ยมคอนโดจาก AP กลับคืนถิ่นเดิม “ลาดพร้าว” อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Life ลาดพร้าว Valley พรีเมี่ยมคอนโดดีไซน์ใหม่เอาใจคอ High-Street Fashion ที่เรียกความสนใจด้วยคอนเซ็ปต์สุดท้าทายแห่งปีอย่าง Live Your Adventurous Spirit
เรียกได้ว่า AP เป็นอีกหนึ่งแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ เติมทุกฟังก์ชั่นให้กับคอนโด Life แบบไร้กรอบมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตัวคอนโด Life ลาดพร้าว บนทำเลห้าแยกลาดพร้าวไปเมื่อต้นปี 2560 ที่ได้รับการตอบรับดีเว่อร์ ผู้คนแห่ไปจองกันเหมือนแจกฟรี และขายไปเกือบหมดภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
แต่สำหรับใครที่พลาด Life ลาดพร้าวไปก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่า AP ยังซ่อนไม้เด็ดบนทำเลตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว ไว้อยู่ ซึ่งในวันนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวปล่อยภาพตัวอย่างพร้อมรายละเอียดโครงการคร่าวๆ มากระตุกต่อมชาวคอนโดกันอีกแล้วกับโครงการ Life ลาดพร้าว Valley
Life ลาดพร้าว Valley มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Live Your Adventurous Spirit ที่นำเสน่ห์จากธรรมชาติและประสบการณ์สุดท้าทายมาไว้ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว เติมแต่งทุกส่วนของโครงการด้วยงานดีไซน์ที่ดูน่าค้นหา มีลูกเล่น พร้อมออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้ดูแตกต่าง เสมือนได้ออกไปผจญภัยในโลกกว้างอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีคอนโดโครงการไหนในเมืองไทยทำมาก่อน
พร้อมชูจุดขายว่าเป็น The New Luxury Adventure Condominium With Signature Triple Pool & 15 Lifestyle Facilities ที่เพียงแค่ก้าว ก็ใกล้รถไฟฟ้า โดยตั้งอยู่ใกล้กับโครงการ Life Ladprao สามารถใช้ทางเข้าออกเดียวกันได้หรือจะเข้าทางซอยพหลโยธิน 22 ก็ได้ ระยะทางประมาณ 250 เมตร ซึ่งเป็นซอยที่สามารถลัดไปออกทางลาดพร้าวซอย 1 ได้ด้วย
ก่อนจะเจาะลึกที่ภาพตัวอย่างโครงการ มาเริ่มกันที่บทสรุปความสะดวกสบายด้านการเดินทางบนทำเลสุดคลาสสิค “ห้าแยกลาดพร้าว” ที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติด ผู้คนคับคั่งและหนาแน่นในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
ห้าแยกลาดพร้าว จุดเชื่อมถนน 3 สายหลัก พหลโยธิน-ลาดพร้าว-วิภาวดีฯ
สาเหตุแรกที่ทำให้ห้าแยกลาดพร้าวคับคั่งไปด้วยผู้คนและรถราก็เพราะนี่คือจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของถนน 3 สายหลักอย่าง ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิต
ถนนพหลโยธิน 1 ใน 4 ถนนสายหลักของประเทศไทยที่เริ่มมาตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไล่ยาวมาทางสนามเป้า อารีย์ สะพานควาย จตุจักร หมอชิต ผ่านหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าวตรงไปทางรัชโยธิน แยกเกษตร สะพานใหม่ รังสิต ก่อนจะขึ้นเหนือและไปสุดสายที่แม่สาย จ.เชียงราย รวมความยาวเกือบ 1,000 กม.
เป็นหนึ่งในถนนที่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย ทั้งหน่วยงานราชการ ออฟฟิศเอกชน สถานศึกษา โดยเฉพาะตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยาวมาถึงหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ถือเป็นศูนย์รวมย่านสำคัญๆ อาทิ อารีย์ แหล่งออฟฟิศราชการ เอกชน และย่านแฮงก์เอ้าท์ของคนทำงาน
สะพานควาย ย่านที่พักอาศัยเก่าแก่และ Street Food ขึ้นชื่อ จตุจักร ย่านช้อปปิ้ง แฟชั่น และงานดีไซน์ทุกรูปแบบ พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ หมอชิต จุดเชื่อมต่อการเดินทางทุกรูปแบบทั้ง BTS, MRT และรถประจำทาง
ถนนลาดพร้าว แม้จะมีความยาวแค่ 11 กม. แต่กลับเป็นถนนที่ขึ้นชื่อว่ารถติดมากที่สุดเส้นหนึ่งของกรุงเทพเลยก็ว่าได้ มีจุดเริ่มต้นที่ห้าแยกลาดพร้าว วิ่งตรงไปตัดกับถนนรัชดาภิเษก ผ่านแยกโชคชัย 4 ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตัดกับถนนศรีนครินทร์บริเวณสามแยกบางกะปิ และไปสิ้นสุดที่สี่แยกบางกะปิซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนนวมินทร์และถนนพ่วงศิริ
โดยส่วนใหญ่เป็นย่านที่อยู่อาศัย โรงเรียน และจุดเชื่อมต่อไปยังย่านที่อยู่อาศัยใหญ่ๆ อย่างรามอินทรา ศรีนครินทร์ ลาดพร้าว บางกะปิ รามคำแหง ฯลฯ จึงไม่น่าแปลกใจที่รถจะติดค่อนข้างมากในเวลาเร่งด่วน เพราะเป็นเส้นทางที่ผู้คนใช้สัญจรสู่ใจกลางเมืองนั่นเอง
ถนนวิภาวดีรังสิต เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณสามแยกดินแดง แยกสุทธิสารตัดกับถนนสุทธิสาร ห้าแยกลาดพร้าวตัดกับถนนพหลโยธิน แยกบางเขนตัดกับถนนงามวงศ์วาน แยกหลักสี่ตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ และไปสิ้นสุดที่อนุสรณ์สถานซึ่งบรรจบกับถนนพหลโยธินอีกครั้ง รวมระยะทางประมาณ 23.5 กม. นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่รถติดและคับคั่งตลอดเวลา เพราะผู้คนใช้สัญจรไปมาเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญในกรุงเทพ
นอกจากถนนสายหลัก 3 สายข้างต้นแล้ว ยังอยู่ใกล้กับทางขึ้นลงโทลล์เวย์ที่เชื่อมต่อกับทางด่วนเข้าสู่กรุงเทพชั้นในหรือออกนอกเมืองไปต่างจังหวัดได้ง่ายดาย อาทิ ทางขึ้นโทลล์เวย์ที่เชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชเพื่อไปทางฝั่งพระราม 9 หรือเข้าเมือง ทางขึ้นโทลล์เวย์แถวหน้า ปตท. เพื่อไปยังสนามบินดอนเมืองหรือออกไปทางรังสิต
BTS vs MRT ศูนย์กลางการเดินทางแห่งอนาคต
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ห้าแยกลาดพร้าวรถติดและผู้คนแออัดก็คงเป็นเพราะผู้คนจำนวนมากเดินทางมาขึ้นรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีพหลโยธินซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีหมอชิต
ซึ่งคาดการณ์ว่า ทันทีที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการ ปัญหารถติดและความแออัดจากการที่ผู้คนต้องนั่งรถประจำทางมาเพื่อต่อรถไฟฟ้า BTS และ MRT บริเวณนี้จะเบาบางลงไป และจะกลายเป็นการขึ้น BTS มาต่อ MRT หรือขึ้น MRT มาต่อ BTS แทน
สำหรับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะเริ่มวิ่งจากสถานีคูคตไล่ยาวขนานมากับถนนพหลโยธิน มาสิ้นสุดที่สถานีห้าแยกลาดพร้าวบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว รวม 16 สถานี และมี Sky Walk เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT (สายบางซื่อ-หัวลำโพง) สถานีพหลโยธิน หรือจะไปต่อรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเดิมได้ที่สถานีหมอชิตไปยังสถานีสยามเพื่อไปต่อรถไฟฟ้าไปสายสาทรหรือสายสีลม
นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งจะเริ่มวิ่งตั้งแต่บริเวณสถานีซอยพหลโยธิน 24 ที่อยู่ใกล้กับแยกรัชโยธิน ไปทางถนนรัชดาภิเษกผ่านจันทร์เกษม ลาดพร้าว โชคชัย 4 ไปทางซอยลาดพร้าว 101 ผ่านลำสาลี พัฒนาการ ศรีนครินทร สวนหลวง ศรีเอี่ยม ศรีลาซาล ศรีแบริ่ง และสำโรง รวมระยะทางประมาณ 30 กม.
Street Fashion vs High-Street Fashion
นอกจากจะเป็นศูนย์กลางด้านการเดินทางแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางแฟชั่นในทุกระดับ ตั้งแต่แฟชั่นหรูหรากับห้างสรรพสินค้าระดับตำนานอย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งจากประสบการณ์ที่เดินเซ็นทรัลลาดพร้าวมากว่าครึ่งชีวิต บอกได้คำเดียวว่ามีเกือบทุกแบรนด์ให้เลือก ทั้งแบรนด์เกรดเอ เกรดพรีเมี่ยม เกรด AAA+++
หรือจะเป็นแบรนด์นอกกระแส Street Fashion และ High-Street Fashion ก็หาได้จากที่เซ็นทรัลลาดพร้าวนี่แหละ นอกจากนี้ ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าวยังมีห้างยูเนี่ยนมอลล์ ศูนย์รวมแฟชั่นที่ไม่เคยตกกระแสหลากหลายรูปแบบ ทั้งในราคาปลีกและราคาขายส่ง
ไฮไลท์สุดๆ ก็คงจะเป็น Street Fashion สายฮิปตลอดกาลอย่าง ตลาดนัดสวนจตุจักรและตลาดนัดเจเจกรีน ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนสไตล์ไหน สนใจเรื่องอะไร ทั้งสายช้อป สายกิน สายแฮงก์เอ้าท์ หรือสายรักสัตว์ ที่นี่คือศูนย์รวมทุกความต้องการที่ไม่เคยตกเทรนด์
เป็นที่นิยมทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติ มีร้านค้ามากกว่า 10,000 ร้าน บนพื้นที่กว่า 100,000 ตรม. หรือฮิปสเตอร์สายกลางคืนก็ต้องไม่พลาด Night Market ยอดฮิตอย่างตลาดนัดเจเจกรีน ที่มีครบทั้งเสื้อผ้า ของแต่งบ้าน ของวินเทจ รถคลาสสิค จักรยาน ฯลฯ
สวนจตุจักร-สวนรถไฟ-สวนสมเด็จฯ แหล่งสกัดอากาศบริสุทธิ์เพื่อคนกรุง
เพราะในแต่ละวันมีปริมาณรถผ่านเข้าออกบริเวณห้าแยกลาดพร้าวเป็นแสนๆ ล้านๆ คัน ปัญหามลพิษจากฝุ่นควันจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ แต่โชคดีที่ยังมี “สวนจตุจักร สวนรถไฟ และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” ทำหน้าที่เป็นเสมือนปอดให้กับคนกรุง ผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมาบนพื้นที่สีเขียวกว่า 700 ไร่
สวนจตุจักร กับพื้นที่สีเขียวกว่า 200 ไร่ ที่เปิดให้เข้ามาออกกำลังกาย เดิน วิ่ง และมีอุปกรณ์ออกกำลังกายอยู่เป็นระยะ
สวนรถไฟ หรือสวนวชิรเบญจทัศกับพื้นที่กว่า 400 ไร่ ที่มีผู้คนมาเดินวิ่งออกกำลังกายและมีลู่ปั่นจักรยานโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำหรับเด็กๆ มีทั้งพิพิธภัณฑ์เด็ก สนามเด็กเล่น อุทยานผีเสื้อ ฯลฯ
หรือถ้าใครที่มองหาความสงบเงียบที่มากกว่าอากาศบริสุทธิ์ ขอแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ที่จะทำให้คุณมีความเงียบสงบทางใจอย่าง “สวนโมกข์ กรุงเทพฯ” หรือชื่อเต็มๆ ว่า หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนรถไฟ โดยภายในมีการจัดกิจกรรมด้านธรรมะหลากหลายรูปแบบ ทั้งการนั่งสมาธิ ทำบุญตักบาตร หรือจะมานั่งพักกายพักใจค้นหาความสงบที่หลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอกได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านี้ “ห้าแยกลาดพร้าว” ยังอยู่ใกล้กับสำนักงานออฟฟิศที่สำคัญมากมาย อาทิ สำนักงานใหญ่ ปตท. สำนักงานใหญ่บริษัทการบินไทย กระทรวงพลังงาน ที่ตั้งศูนย์การขนส่งขนาดใหญ่ บริษัทรถทัวร์ ธุรกิจโรงพิมพ์ หนังสือพิมพ์ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สถานีโทรทัศน์ โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ ฯลฯ
ที่สำคัญ ในอนาคตยังเป็นทำเลที่ตั้งของ Mage Project มากมาย อาทิ Mochit Complex, และการส้างโปรโจกส์ยักษ์ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง BTS กับ G Land รวมทั้ง Bang Sue Grand Station ศูนย์กลางการเดินทางขนาดใหญ่
เมื่อทำเลภายนอกไม่ได้มีดีแค่การเดินทางแต่ยังเป็นศูนย์กลางของทุกสรรพสิ่งที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะวิถีชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ที่เดินหน้าอยู่ตลอดเวลา มีความเป็นตัวเองสูง ค้นหาความท้าทายและความล้ำสมัยที่ไม่ใช่แค่การตามกระแส แต่ยังหมายถึงการสร้างกระแสที่เป็นตัวเอง บ่งบอกตัวตนในทุกสิ่งที่ทำ
Life ลาดพร้าว Valley จึงมาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนนั่นคือ Live Your Adventurous Spirit เน้นงานดีไซน์และการออกแบบทุกพื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์ชีวิตที่รักความท้าทายและการผจญภัย การออกแบบโครงการได้รับแรงบันดาลใจมาจากการโรงแรมและรีสอร์ทระดับไฮเอนด์ที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาสไตล์ Valley ใช้เส้นสายลายโค้งจากธรรมชาติมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม
Life ลาดพร้าว Valley เป็นคอนโด High-Rise สูง 44 ชั้น พร้อม 1 ชั้นใต้ดิน บนพื้นที่ 5-2-45.5 ไร่ มีห้องพักทั้งหมด 1,141 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต พื้นที่จอดรถ 484 คันหรือคิดเป็น 42% แบบยังไม่รวมซ้อนคัน แบ่งตัวอาคารออกเป็น 5 ส่วน คือ
ชั้น 1 โซนล็อบบี้ Co-Working, Semi-Outdoor Lobby, Meeting Room และลานจอดรถ
ชั้น 2-5 ลานจอดรถ
ชั้น 6 โซนพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง Avalon ที่มีพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ 1 สระ
ชั้น 7-43 โซนพักอาศัย
ชั้น 44 และ Mezzaine เป็นพื้นที่ส่วนกลาง Rooftop Facilities ฟิตเนส และสระว่ายน้ำลอยฟ้า 2 สระ
ส่วนรูปแบบห้องนั้นมีทั้งหมด 4 แบบได้แก่
ห้องสตูดิโอ ขนาด 28.8 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 35-37 ตร.ม.
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 48.6 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 57.8-66.5 ตร.ม.
แม้ว่าทางโครงการจะยังไม่ปล่อยภาพ Perspective ของโซนพักอาศัยออกมาให้เห็น แต่ก็ปล่อยภาพพื้นที่ส่วนกลางและรอบๆ โครงการออกมาแบบจัดเต็มให้สมกับจุดขายที่ว่า The New Luxury Adventure Condominium With Signature Triple Pool & 15 Lifestyle Facilities จะพรีเมี่ยมแค่ไหน ตามไปดูกัน
มาเริ่มกันที่ทางเข้าโครงการ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นสายของ Valley จากเมืองนอก นำเอาลวดลายเส้นสายมาปรับใช้กับการออกแบบ เลือกใช้โทนสีเข้มเป็นสีหลักและแซมตัดด้วยโทนสีสว่างซึ่งเป็นสีจากธรรมชาติจริงๆ ของ Valley เพิ่มความหรูหราด้วยการเลือกใช้วัสดุประเภทหินอ่อน อะลูมิเนียมสะท้อนแสง และจัดแสงสีเพิ่มไฮไลท์จุดต่างๆ ของโครงการให้เด่นยิ่งขึ้น
ภาพด้านล่างเป็นภาพบริเวณทางเข้า (Sub-Entrance) ซึ่งทางโครงการมีการใช้พื้นที่สีเขียวตัดกับบริเวณสระน้ำที่ใช้เส้นโค้งมาเชื่อมต่อการออกแบบพื้นที่เข้าด้วยกัน สังเกตุจากมุมขวาของภาพจะเห็น Bike Lane สีเขียวที่ทางโครงการจัดพื้นที่สำหรับปั่นจักรยานรอบโครงการพร้อมที่จอดจักรยาน
The Valley Passage ทางเดินภายในโครงการที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียว แซมด้วยทางเดินเส้นโค้ง พร้อมที่นั่งพักผ่อนภายในสวน
สำหรับชั้น 1 แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่คนนอกเข้าออกได้บางส่วน แต่หลักๆ จะเป็นพื้นที่ชั้นในที่ต้องใช้ Key Card Access เพื่อเข้าสู่โซนล็อบบี้ ซึ่งภายในโซนล็อบบี้จะมีพื้นที่ Co-Working, Living & Play Area, ห้องเมลล์ และ Lift Hall ที่ต้องใช้ Key Card Access เช่นกัน
ภาพด้านล่างเป็นบริเวณ The Canyon Lobby ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากรูปทรงในหุบเขาลึก เส้นสายและรูปทรงต่างๆ จะดูอิสระ ฟรีฟอร์ม และเพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุสีเงินและทองที่เน้นความเงางามและสะท้อนแสง
นอกจากล็อบบี้ด้านในแล้วยังมี Semi-Outdoor Lobby พื้นที่ล็อบบี้กึ่งกลางแจ้ง สามารถออกมารับแขกพบปะพูดคุยกันด้านนอก ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวและสระน้ำ จากภาพด้านบนจะเห็นถึงการเลือกใช้วัสดุประเภทหินและหินอ่อน เสริมความเป็นธรรมชาติตัดกับพื้นที่สีเขียว
The Canyon Meeting Room พื้นที่ส่วนกลางสำหรับประชุม พักผ่อน หรือนั่งคุยรวมกัน
นอกจากนี้ในบริเวณชั้น 6 ยังมีการจัดพื้นที่พักผ่อนสีเขียวภายใต้คอนเซ็ปต์ Tropical Rain Forest ที่เรียกว่า The Avalon ออกแบบให้เป็นสวนพักผ่อนและสระว่ายน้ำที่สามารถนอนชมภาพยนตร์ได้ด้วย ตามตัวอย่างภาพ Perspective มุมสูงด้านบน
จากภาพจะเห็นว่ามีการแบ่งเป็นพื้นที่สีเขียว ออกแบบให้เป็นเนินเล่นระดับเพิ่มความเป็นสวนป่ามากยิ่งขึ้น และจัดวางที่นั่งพักผ่อนไว้ใต้ร่มไม้
ส่วนโซนสระว่ายน้ำพร้อมที่นั่งพักผ่อนในร่มถูกออกแบบให้เหมือน Canyon ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนป่าที่มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมและชมภาพยนตร์ไปด้วย
เป็นภาพอีกมุมจากสระว่ายน้ำชั้น 6 ที่มองเห็นมุมสูงวิวเมืองในย่านลาดพร้าว
อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการก็คือการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 44 ที่มี Mezzaine หรือชั้นลอยเสริมเล่นระดับเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ชั้น แบ่งออกเป็นสระว่ายน้ำ 2 สระ ตามตัวอย่างภาพ Tive ด้านล่าง
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ภายในโครงการนี้มีสระว่ายน้ำรวมถึง 3 สระ โดยแต่ละสระจะมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน อย่างชั้น 6 The Avalon ก็เป็นสระว่ายน้ำที่สามารถนอนชมภาพยนตร์กลางแจ้งได้ด้วย ส่วนที่ชั้น 44 ก็มีอีก 2 สระ
สระแรกตามตัวอย่างภาพด้านล่างเรียกว่า Aqua Valley เป็นสระว่ายน้ำเพื่อการออกกำลังกายแอคทีฟจริงจังแบบ Infinity Edge มองเห็นวิวเมืองฝั่งพื้นที่สีเขียวของสวนจตุจักรทั้งหมด
ส่วนอีกสระเรียกว่า Grand Valley Bay สระว่ายน้ำที่มีความชิลเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ว่ายไปชิลไป ท่ามกลางวิวเมืองและวิวสีเขียวจากสวนจตุจักร บนชั้น Mezzanine ที่สูงสุดโครงการ พร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระให้คุณชมวิวได้ทุกเวลา
เพิ่มลูกเล่นให้กับพื้นที่ส่วนกลางด้วย Crystal Alley ทางเดินอุโมงค์ลอดใต้สระว่ายน้ำ ซึ่งพื้นสระว่ายน้ำทำมาจากอะครีลิคใส ทำให้เราได้เห็นอีกมุมมองใต้สระว่ายน้ำ ถือเป็นไอเดียสร้างสรรค์สำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่ค่อยได้เห็นในเมืองไทยมากนัก
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของชั้น 44 ก็คือ Sky Walk Circuit ที่โครงการทำบันไดเชื่อมต่อพื้นที่ส่วนกลางห้องต่างๆ และเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่น่าสนใจในบริเวณ Observation Deck
นอกจากนี้ ยังมีฟิตเนส ห้องซาวน่าและห้องสตรีม ห้องออกกำลังกาย ห้องโยคะ ห้องอเนกประสงค์ สวนพักผ่อน หน้าผาจำลอง พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับเล่นกีฬา Multi Living Space, Theatre Lounge, Library
รวมทั้งหมดแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าสมกับราคาคุยของจุดขายโครงการที่ว่า The New Luxury Adventure Condominium With Signature Triple Pool & 15 Lifestyle Facilities ส่วนราคาขายนั้นก็แว่วๆ มาว่าเริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาท
หาก Life ลาดพร้าว Valley คือนิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิตที่คุณกำลังตามหา มาร่วมผจญภัยและสร้างนิยามใหม่ในการใช้ชีวิตกับพรีเมี่ยมคอนโดแห่งแรกของเมืองไทยที่มีคอนเซ็ปต์สุดท้าทายอย่าง “Live Your Adventurous Spirit” ได้ที่ https://goo.gl/SmX27w หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร. 1623
แสดงรายละเอียดเพิ่มเติม
สิ่งอำนวยความสะดวก
รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
ที่จอดรถ
ฟิตเนส / ยิม
ห้องประชุม
ห้องหนังสือ
สระว่ายน้ำ
สวนขนาดย่อม
ที่ตั้งโครงการ
สถานที่ใกล้เคียง
คำนวณสินเชื่ออสังหาฯ เบื้องต้น
ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารวงเงินกู้
0
บาทรายได้ขั้นต่ำต่อเดือน
0
บาทยอดผ่อนต่อเดือน
0
บาทประกาศขาย เช่าอื่นๆ ของ ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเล่ย์
สนใจโครงการนี้