Niche MONO Mega Space Bangna

นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา

Real CBD is Coming

โดย LifeScape

ถ้าให้ยกตัวอย่างย่าน CBD ทุกคนมักจะยกตัวอย่าง ย่านสุขุมวิท สาธร สีลม พระราม9 รัชดา เพราะมีปัจจัยรองรับทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ ห้าง รถไฟฟ้า ถ้าเรามองว่าปัจจัยพื้นฐานเหล่านั้นเป็นปัจจัยสำคัญของการที่จะเรียกว่าย่านไหนคือ CBD...

ใครที่เคยผ่านมาแถว บางนา - สุขุมวิทตอนปลาย วันนี้ ก็จะเห็นว่า ย่านนี้ได้ก้าวขาข้างนึงลงไปในเขต NEW CBD เรียบร้อยแล้วและจะเป็น Real CBD ในอีกไม่เกิน 5 ปี แน่นอน

จากที่เคยเป็นม้านอกสายตา... ตอนนี้ “บางนา” กลับเป็นม้าเร็วมาแรงอันดับต้นๆ เห็นได้จากที่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูงแนวราบพากันเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ทั้งของภาครัฐและเอกชน พ่วงด้วยสิ่งสะดวกสบายมากมายที่กำลังทยอยเปิดตัว

หนึ่งในนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแถวหน้าอย่าง “เสนา ฮันคิว” ก็เป็นอีกเจ้าที่เล็งเห็นศักภาพของย่านนี้และไม่รอช้าที่จะคว้าทำเลทองในย่านบางนา มาพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์คนวัยทำงานที่กำลังหาที่อยู่อาศัย บอกได้เลยว่า ที่นี่ไม่ต่างจากคอนโดหรูๆในเมือง แต่ราคาถูกใจคนวัยทำงานมากๆ

“นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา” คือโครงการคอนโดที่ “เสนา ฮันคิว” ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำของเมืองไทยร่วมมือกับยักษ์ใหญ่แดนปลาดิบ “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ คอเปอร์เรชั่น” ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ร่วมทุนกันโครงการที่ 4 ต่อจาก ปีติ เอกมัย ที่เพิ่งเปิดตัวไป 

ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 6 ติดถนนใหญ่เลยครับ เป็นอาคารสูง 40 ชั้น พื้นที่ประมาณ 1,556 ตารางวา มีทั้งหมด 795 ยูนิต ออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ Made from Her ซึ่งแบ่งเป็น

• Her Circle : ปันสุข สร้างความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้ชีวิต ด้วยพื้นที่สีเขียวสไตล์ Urban Courtyard
• Her Self : มั่นใจ กับบริการหลังการขายครบวงจรให้ลูกบ้านด้วยหัวใจ กับ Application SENA 360 Service
• Her Security : อุ่นใจ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย Triple Security ตลอด 24 ชม.
• Her Comfort : สบายใจ กับการเดินทางที่ใกล้และสะดวกทุกจุดหมาย อีกทั้งทุกดีเทลการใช้ชีวิตในห้องชุด

ความน่าสนใจหลักๆ ของ “นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา” คือนอกจากจะเดินทางไปกรุงเทพชั้นในอย่างสุขุมวิทได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ยังล้อมรอบด้วยรถไฟฟ้าสายสำคัญ 4 สาย และเป็นโครงการที่ดึงเอาศักยภาพของทำเล “บางนา” มาใช้อย่างเต็มที่กับจุดขาย DOUBLE Space + TRIPLE Facilities ที่มีพื้นที่กว้างถึง 30 ตรม. ที่จอดรถ 70% ให้คุณจุใจกับการพักผ่อนบนพื้นที่ส่วนกลาง 3 ชั้น เรียกว่าเพิ่มพื้นที่ใช้สอยทั้งในส่วนพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม

ก่อนดูภาพตัวอย่างโครงการ ขอพาไปสำรวจ “บางนา” ว่าตอนนี้สะดวกสบายเพียงใด

ตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวกสบายกับรถไฟฟ้า 3 สาย
 

ด่านแรกของการเข้าสู่บางนาก็คือการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเป็นสายหลักของคนกรุงที่มีมูลค่ามากที่สุด! เริ่มวิ่งจากหมอชิต-อ่อนนุชในปี 2542 และเพิ่มส่วนต่อขยายจาก อ่อนนุช-แบริ่ง ในปี 2554 และล่าสุดก็ขยายจากสถานี แบริ่ง-สำโรง เพิ่มขึ้นอีก 1 สถานี 

คาดว่าจะเปิดใช้ส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ในช่วงปลายปี 2561 ขณะที่สายเหนือฝั่งหมอชิตก็กำลังสร้างส่วนต่อขยายไปตามแนวถนนพหลโยธิน หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2563-2564

ถ้าลองมองภาพใหญ่จะเห็นเลยว่า เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบสร้างเสร็จ ไม่ใช่แค่เดินทางไปสุขุมวิทได้ง่ายในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่นี่คือระบบขนส่งขนาดใหญ่ที่จะเชื่อมต่อชีวิตของคนกรุงเทพฯตอนเหนือและตอนใต้ จากคูคต (ลำลูกกา) มาจนถึงบางนาและไปต่อยาวจนถึงสมุทรปราการได้อย่างสะดวกสบาย ย่นทั้งระยะเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว

สำหรับสถานีที่ใกล้โครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา คือ สถานีบางนา ที่อยู่ห่างจากตัวโครงการไปประมาณ 4 กิโลเมตร  แต่อีกไม่นาน บริเวณหน้าโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา ก็จะมีรถไฟฟ้า “ไลต์เรลสายบางนา-สุวรรณภูมิ” ตัดผ่าน ซึ่งเริ่มวิ่งจากสถานีสุวรรณภูมิมาตามแนวถนนบางนา-ตราด ผ่านหน้าโครงการและไปสิ้นสุดบริเวณสี่แยกบางนาโดยมี Sky Walk เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ซึ่งโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา จะอยู่ระหว่างสถานีบางนาตราด 2.5 กม. กับสถานีศรีเอี่ยม

นอกจากนี้ สถานีศรีเอี่ยมยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” ที่เริ่มต้นจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งเชื่อมต่อกับ MRT สถานีลาดพร้าว วิ่งตามถนนลาดพร้าวมาเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีบุรี) ที่แยกลำสาลี เชื่อมต่อกับแอร์พอร์ตลิงค์สถานีหัวหมาก และวิ่งมาทางแยกศรีเอี่ยม เลี้ยวเข้าถนนเทพารักษ์ เชื่อมต่อกับ BTS สายสีเขียวที่สถานีสำโรง

สรุปแล้วจากหน้าโครงการนิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไปยังถนนบางนา-ตราดฝั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ หรือจะเลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ พัฒนาการ บางกะปิ รามคำแหง ลาดพร้าว และรัชดา ก็ง่ายนิดเดียว

แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพอย่างถนน “สุขุมวิท” ได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่เกิน 10-20 นาทีเพราะจากสถานีบางนาไปเพียง 5 สถานีก็เข้าสู่พื้นที่สุดฮิปอย่างเอกมัย-ทองหล่อ ทำเลเด่นสุดฮอตของย่านสุขุมวิท ที่รวมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วย Community Mall ชื่อดังมากมาย หรือถัดออกไปเข้าสู่ย่าน เพลินจิต-ชิดลม-สยาม ก็เป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าไฮเอนด์มากมาย 

ถ้าทั้งหมดทั้งมวลเปิดให้บริการครบวงจร ถึงจะอยู่ “บางนา” แต่ก็เดินทางไปทุกมุมเมืองได้อย่างง่ายดายด้วยรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกันอย่างไม่สิ้นสุด

โครงข่ายทางพิเศษเพื่อการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

การเดินทางด้วยรถยนต์ที่สะดวกสบายทั้งขาเข้าเมือง สามารถวิ่งได้ทั้งทางธรรมดาและทางด่วน สำหรับทางธรรมดาแนะนำว่าเหมาะกับช่วงไม่เร่งรีบ จากหน้าโครงการเข้าสู่ถนนบางนา-ตราด ตรงไปสี่แยกบางนาก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสุขุมวิทบริเวณอุดมสุขได้เลย หรือใช้ทางยูเทิร์นไปขาออก ตรงไปแยกศรีเอี่ยมเลี้ยวเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์เพื่อไปยังถนนพัฒนาการ - รามคำแหง - กรุงเทพกรีฑา - พระราม 9 ฯลฯ หากวิ่งเลยแยกศรีเอี่ยมไปทางอิเกียบางนา สามารถเลี้ยวซ้ายตรงบริเวณวงแหวนรอบนอกเพื่อไปใช้ถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีก็ได้

ส่วนการเดินทางเข้าเมืองในช่วงเร่งรีบแนะนำใช้ทางพิเศษสายเฉลิมมหานครที่เชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษศรีรัช ที่ครอบคลุมทุกมุมเมืองของกรุงเทพฯ จะสะดวกรวดเร็วกว่า

Mega-Lifestyle by Mega-Project 

นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว “บางนา” ยังตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเมกะโปรเจกต์หลากหลายโครงการ ยืนพื้นด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ดั้งเดิมอย่างเซ็นทรัลบางนา ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค เมกะบางนา อิเกีย หรือเลี้ยวไปทางฝั่งศรีนครินทร์ก็จะมีห้างซีคอนฯ ห้างพาราไดซ์พาร์ค

แต่โปรเจกต์ที่กำลังเป็นที่จับตามองก็คือ Mega Project ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอย่าง Bangkok Mall ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในเครือเดอะมอลล์ที่มีพื้นที่โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร ส่วนฟากเซ็นทรัลก็ไม่น้อยหน้าเปิดตัวแหล่งช้อปปิ้งสไตล์ใหม่ชื่อว่า Central Village ติดทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิฝั่งใต้ หวังดึงทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาซื้อสินค้าแบรนด์ไทยและแบรนด์เนมระดับโลก

นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา DOUBLE Space + TRIPLE Facilities รอบโครงการครบครันขนาดนี้ แล้วในโครงการล่ะ พิเศษขนาดไหน?

จากคอนเซปต์ DOUBLE Space + TRIPLE Facilities สะท้อนให้เห็นว่าทางโครงการใส่ใจกับการออกแบบพื้นที่สำหรับผู้อาศัย ทั้งในห้องพักส่วนตัวและส่วนกลางให้มีพื้นที่สำหรับการใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายเต็มที่มากยิ่งขึ้น เพราะไม่เพียงแค่การใช้ชีวิตประจำวันจะต้องอยู่ในห้องเท่านั้น แต่พื้นที่ส่วนกลางก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตเช่นเดียวกัน

TRIPLE Facilities เริ่มกันที่พื้นที่ส่วนกลางที่มีถึง 3 ชั้น โดยการผสมผสานระหว่าง Social Community และ Activity เข้าด้วยกัน ประกอบไปด้วยพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง และพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ อาทิ ห้องทำงานสร้างสรรค์ความคิดอย่าง Green Park Co-Working Space

พื้นที่ประชุม Co-Meeting ห้องรับแขกท่ามกลางสวนสวย Garden Lobby และ Chill-Out Terrace รวมทั้งพื้นที่พักผ่อนอย่าง Reading Lounge, Sky Lounge, Cinema Space และ Co-Party & Co-Kitchen ส่วนที่จอดรถก็มีมากถึง 70% ไม่รวมจอดซ้อนคัน 

ภาพตัวอย่างโซน Lobby ที่เน้นดีไซน์ โปร่ง สบายตาในตอนกลางวัน และเพิ่มการเล่นจังหวะของแสงไฟในช่วงกลางคืนเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนและสบายตา

ส่วนของห้อง Co-Meeting ที่เน้นการตกแต่งแบบโปร่งโล่งด้วยสีสันโทนพาสเทลสบายตา ผสมผสานดีเทลให้น่าสนใจด้วยลวดลายบนผนัง ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ธรรมชาติแสนสดชื่น

Co-Meeting เน้นการตกแต่งให้ดูสบายๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรียบง่าย โทนสีอ่อน แต่เพิ่มดีเทลเพื่อสรรค์สร้างจินตนาการ ให้การระดมสมองของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เช่นเดียวกับโซน Chill-Out Terrace ที่เน้นโทนสีสบายตา ตัดด้วยสีเขียวจากต้นไม้และเฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรียบง่าย เป็นพื้นที่ธรรมชาติอีกแห่งที่เหมาะแก่การจิบกาแฟแก้วโปรดในเช้าที่สดใส

ขณะที่โซนดูหนังส่วนกลางก็ออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์พร้อมที่นั่งแบบส่วนตัว สอดแทรกด้วยหน้าต่างทรงสูงที่เปิดรับวิวจากภายนอกได้เต็มที่

ปิดท้ายด้วยภาพพื้นที่ส่วนกลางด้วยวิวสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสที่เปิดรับวิวได้แบบ 360 องศา ให้คุณดื่มด่ำกับบรรยากาศภายนอกได้อย่างเต็มที่

DOUBLE Space หรือพื้นที่พักอาศัยที่ออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ Good Sleep ที่เน้นให้ทุกการพักผ่อนคือการพักผ่อนที่แท้จริง ด้วยการออกแบบห้องนอนให้มีพื้นกว้างกว่าห้องนั่งเล่น ใช้เทคโนโลยี Master Switch มาช่วยในเรื่องการปรับแสดงสว่างเพื่อให้ลูกบ้านได้นอนหลับพักผ่อนสบายมากยิ่งขึ้น

พร้อมด้วยระบบ Dimmer Light สร้างแสงสลัวช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลาย ที่สำคัญทางโครงการใส่เรื่องระยะห่างระหว่างเตียงนอนกับหน้าต่างให้มีระยะที่เหมาะสมเพื่อลดมลภาวะทางเสียง ให้ทุกช่วงเวลาภายในห้องเหมาะสมกับการพักผ่อน เป็นส่วนตัว และมีความสุขในทุกๆ วัน

สำหรับ 795 ยูนิต แบ่งออกเป็น

1 ห้องนอน 30 ตร.ม. จำนวน 360 ยูนิต

1 ห้องนอนพลัส 34.90 ตร.ม. จำนวน 301 ยูนิต

2 ห้องนอน 50 ตร.ม. จำนวน 134 ยูนิต

อย่างที่บอกว่าในส่วนของที่พักอาศัยจะเน้นการออกแบบพื้นที่ในห้องนอนเป็นพิเศษ เพื่อให้การพักผ่อนเป็นไปได้อย่างเต็มที่ จากภาพตัวอย่างคร่าวๆ จะเห็นว่าในห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างมาก และมีการควบคุมแสงให้เข้ามาภายในห้องแบบพอเหมาะ ทั้งด้วยการออกแบบหน้าต่างและการเว้นระยะระหว่างที่นอนกับหน้าต่าง

แม้ว่าจะเปิดภาพตัวอย่างให้เห็นเพียงบางส่วนแต่ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา ก็เป็นคอนโดใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในงานดีไซน์พื้นที่และทุกรายละเอียดให้ออกมาตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตได้อย่างจุใจ ที่สำคัญเพื่อให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในทุกวันได้ตามต้องการ

นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา เริ่มต้นราคา 2.2 ล้านบาท* สำหรับห้อง 1 ห้องนอน 30 ตร.ม. จัดได้ว่าคุ้มค่าเงินจริงๆ ส่วนรายละเอียดของห้องพักคงต้องอดใจรอทางโครงการเปิดตัวห้องตัวอย่างกันอีกที 

 

1 ห้องนอน เปิดจองที่ราคา 10,000 บาท ทำสัญญาอยู่ที่ 20,000 บาท

2 ห้องนอน เปิดจองที่ราคา 20,000 บาท ทำสัญญาอยู่ที่  30,000 บาท

ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่  83,000 บาท /ตร.ม.

แต่สำหรับใครที่สนใจก็สามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ที่ Niche MONO Mega Space Bangna หรือโทร. 1775 และสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท