รายการโปรด
ในงาน Next 7.0 ปี 2024 ที่ผ่านมาได้ฟังประโยคหนึ่งจาก CEO ของเราและรู้สึกว่ามันเรียลมากคือ “Branding มีส่วนสำคัญอย่างมาก ต่อการเลือกเช่า-ซื้ออสังหาฯ เพราะไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็จะมีแต่คนซื้อ เนื่องจากลูกค้าจดจำได้ว่าแบรนด์นี้ดี มีคุณภาพทั้งตัว Product และบริการหลังการขาย”
และก็ไม่รู้ทำไมแบรนด์แรกที่แว๊บเข้ามาตอนกำลังนั่งฟังอยู่คือ AP ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราได้เห็นว่าตลอดทั้งปี 2024 เอพี ยังคงปล่อยโครงการใหม่ออกมาโชว์แบบไม่มีหยุด ซึ่งมีนัยยะบางอย่างที่บ่งบอกได้ว่าแบรนด์นี้ ยังคงเป็นที่ต้องการของลูกค้าจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากยอดจองและยอดขายที่เป็นไปในทิศทางที่ดีในทุกๆ โครงการ ทุกๆ ทำเลเลยก็ว่าได้
ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าแต่ละโครงการที่เกิดขึ้นมี Key Message เดียวกันนั่นคือต้องการให้ลูกค้าได้รับมากกว่าคำว่าคุ้มค่า ที่ไม่ใช่แค่พัฒนาตัว Product ให้ได้คุณภาพอยู่ตลอด แต่ยังมองเลยไปถึงการเป็นจุดเริ่มต้นคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย
จึงไม่แปลกที่ทำให้ AP Thailand กลายเป็นแบรนด์ที่เป็น Top of Mind ของใครหลายๆ คน เล่ามาขนาดนี้เราเลยไม่พลาดที่จะมารีวิวอีกหนึ่งโครงการใหม่น่าสนใจ ส่งท้ายปี 2024 แบบยิ่งใหญ่
จึงนับเป็นการเปิดปฐมบทครั้งใหม่ ที่เชื่อมั่นว่าจะเป็นการยกระดับและสร้างมาตรฐานให้แก่แบรนด์ไลฟ์ ในโครงการอนาคตข้างหน้าต่อๆ ไป… หากอยากรู้แล้วว่าจะมี ครั้งแรก ที่น่าตื่นตาตื่นใจอะไรอีกบ้าง ตามไปอ่านโครงการนี้กันต่อด้านล่างได้เลย!!!
► BEYOND THE LIMITES OF TIME | ไร้ขีดจำกัดทุกการเดินทาง
เจริญนคร มีความพิเศษทั้งในเรื่องของทำเลที่อยู่ในย่าน Heritage เปรียบเหมือนการส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมและความทรงจำตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นการผสมผสานความเป็นชุมชนเก่าแก่และความเป็นเมืองได้แบบลงตัว ขณะเดียวกันก็ยังเป็นพื้นที่ที่ Retreat สำหรับคนเมืองอย่างแท้จริง
โดยตัวโครงการ “ไลฟ์ เจริญนคร-สาทร” (LIFE Charoennakhon-Sathorn) ตั้งอยู่บนถนนเจริญนครฝั่งขาเข้า ทำให้เกิดจุดเด่นทั้งอยู่บนโลเคชันที่ติดถนนใหญ่ และสะดวกในการเดินทางเข้าเมือง
ทำให้หากจะมุ่งหน้าไปทำงาน ย่านสาทร-สีลม ที่เป็นเขต CBD ใจกลางกรุงเทพฯ ก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะด้วยระยะทางที่อยู่ใกล้กันไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งใครใช้รถยนต์ส่วนตัวแค่วิ่งข้ามสะพานตากสินลงถนนสาทรเหนือและตรงไปอีกนิดก็ถึงจุดหมายแล้ว อีกทั้งจากเส้นทางเดียวกันนี้ยังเชื่อมต่อไปยังพระราม 4 ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังวิ่งออกไปพระราม 3 โดยใช้ถนนนราธิวาส หรือจะเลือกวิ่งตรงยาวบนถนนเจริญนครก็ได้ โดยอีกฟากฝั่งหนึ่งของถนนจะออกไปทางวงเวียนใหญ่ ผ่านถนนลาดหญ้า ถนนสมเด็จเจ้าพระยา และถนนอรุณอัมรินทร์
แต่ไม่เพียงเท่านั้นเพราะถนนเจริญนครยังคอนเน็กไปยังถนนกรุงธนบุรี ผ่านวงเวียนใหญ่ได้เหมือนกัน และเชื่อมสู่ถนนราชพฤกษ์ที่ไปได้ทั้งตลาดพลู ท่าพระ เพชรเกษม และกัลปพฤกษ์ ที่สามารถออกนอกเมืองไปจังหวัดข้างเคียงอย่างนนทบุรี และนครปฐมได้โดยง่าย
แน่นอนว่าโครงการยังอยู่ใกล้ทางด่วนศรีรัช สะดวกสำหรับคนไปทางโซนพระราม 9 รัชดาภิเษก หรือเส้นถนนวิภาวดีรังสิต ดอนเมือง และแจ้งวัฒนะ อีกอันคือทางด่วนเฉลิมมหานคร ออกบางนา ดาวคะนอง สมุทรปราการได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนอีกหนึ่งการเดินทางที่ขาดไม่ได้อย่างรถไฟฟ้าก็ไม่ต้องกังวล เพราะอยู่ในรัศมี BTS แน่นอน โดยโครงการจะอยู่ใกล้ สถานี กรุงธนบุรี เพียง 600 เมตร* และแค่ 1 สถานี ก็ถึง CBD โซนสาทร และวงเวียนใหญ่ ซึ่งสถานีนี้ยัง Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีทองอีกด้วย รวมถึงยังมีขนส่งสาธารณะอื่นๆ ทั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถเมล์ แท็กซี่ และท่าเรือสาทรที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ
► BEYOND THE ORDINARY | สัมผัสชีวิตไลฟ์สไตล์อย่างเหนือระดับกว่าที่เคย
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกบอกได้เลยว่าหันไปทิศไหนก็เจอ ที่โอบล้อมการใช้ชีวิตประจำวันด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ที่อุดมสมบูรณ์ ที่ใกล้โครงการ “ไลฟ์ เจริญนคร-สาทร” แบบข้ามมาอีกฝั่งก็ถึงแล้วอย่าง Gump’s Cross ไลฟ์สไตล์คอมมิวนิตี้แห่งใหม่
อีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน ซึ่งเดินจากโครงการไม่เกิน 10 นาที ประมาณ 400 เมตร* ก็ถึง Sena Fest ครบทั้งร้านค้าและร้านอาหารที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
แต่ที่เป็นไฮไลต์ขับรถแค่ประมาณ 10 นาที* จะพบกับศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งระดับโลกอย่าง ICONSIAM ครอบคลุมทั้งร้านค้าร้านอาหารชื่อดังมากมาย
นอกเหนือจากนี้โครงการยังใกล้คอมมูนิตี้ มอลล์และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ได้แก่ Asiatique The Riverfront, OURS เจริญนคร 10, Robinson Bangrak และ Riverside Plaza
รวมถึงยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่สุดชิค ทั้งแบบอยู่ติดโครงการไปจนถึงละแวกข้างเคียงอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Summer Brown, Holiday Pastry, Hint Coffee, Rod Tiew & Bar, KAWA izakaya, เฮงหอยทอดชาวเล, ร้านขนมจีนไหหลำ เจริญนคร 19 และลูกชิ้นปลา บรรทัดทอง สาขาเจริญนคร
Photo credit by : facebook คาเฟ่ไปเรื่อย go cafe
Photo credit by : bkkmenu
Photo credit by : bkkmenu
และอย่างที่บอกไปว่า โครงการอยู่ติด CBD สาทร ศูนย์กลางธุรกิจ จึงเต็มไปด้วยสำนักงานออฟฟิศชั้นนำ เช่น Empire Tower, AIA Sathorn, Sathorn Square, Park Silom รวมถึงในอนาคตจะมี ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย บนถนนเจริญนคร ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2569
สำหรับ สถานพยาบาล ก็ขาดไม่ได้เช่นเดียวกันทั้ง รพ.ตากสิน รพ.สมิติเวชธนบุรี รพ.บีเอ็นเอช รพ.เซนต์หลุยส์ และรพ.สมเด็จเจ้าพระยา
ขณะที่ สถานศึกษา ย่านนี้ก็ขึ้นชื่อโรงเรียนชื่อดัง ไม่แพ้ทำเลอื่นๆ เช่น รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา, รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.อัสสัมชัญ, Shrewsbury International School, และKing's College International School Bangkok
Photo credit by : postjung
► BEYOND THE LEISURE | มากกว่าการ Relax แต่คือการ Retreat ให้ชีวิต
สร้างจุดแข็งจากปัจจัยภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ก็เข้าสู่พื้นที่พักอาศัยที่นำไปสู่อีกขั้นของการฟื้นฟูชีวิตให้เกิดความบาลานซ์ได้อย่างลงตัวไปกับโครงการ “LIFE เจริญนคร - สาทร” ที่มาในคอนเซ็ปต์ BEYOND THE BOUNDARIES - เหนือกว่าทุกข้อจำกัด สู่ความสมดุลของการใช้ชีวิต
ซึ่งแบรนด์ LIFE โครงการนี้ได้สร้าง First Time ซ่อนเอาไว้อยู่ในทุกๆ ดีเทล ที่จะกลายเป็นมาตรฐานให้แก่แบรนด์ไลฟ์ในโครงการอนาคตต่อๆ ไป ตั้งแต่การมีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดของแบรนด์ไลฟ์ ด้วยจำนวนเพียง 580 ยูนิต บนคอนโด High-Rise สูง 28 ชั้น กับขนาดที่ดิน 3-0-55.0 ไร่ โดยสามารถจอดรถได้ 243 คัน หรือ 42% (ไม่รวมซ้อนคัน) มาพร้อม EV Charger 8 คัน
แต่ที่เรียกความสนใจได้เป็นพิเศษคือส่วนกลางของที่นี่ ซึ่งสร้างเซอร์ไพรส์ไปกับความเป็นครั้งแรกในทุกดีเทลของจริง ตั้งแต่เป็นครั้งแรกที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนด้วยการใช้ Original Culture & Luxury Authentic Material
ที่ผสมผสานระหว่างเทคนิคความเป็นท้องถิ่น เช่น Joinery & Janga กับเทคนิคแบบ Craftsmanship & Painting ในการตกแต่งออกแบบทั้งโครงการ อย่างตัว Facade ต่อเนื่องไปยัง Exterior ส่วนอื่นๆ จนถึง Interior รวมถึงการเลือกใช้วัสดุแบบ Authentic เพื่อให้ทุกพื้นที่ออกมาสวยงามมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว และที่สำคัญคือได้ Benefit เยอะที่สุด
แต่เนื่องจากโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง ที่นอกจากภาพ Perspective ที่ได้เห็นแล้ว ก็การันตีเลยว่าของจริงตอนสร้างเสร็จก็สวยไม่แพ้กัน แต่ทุกคนสามารถสัมผัสบรรยากาศจำลองจาก Sales Gallery กันก่อนได้ ซึ่งได้ดึงเอา Element บางส่วนมาใช้ เช่น Facade อาคาร รวมถึงการออกแบบภายในเซลล์ แกลลอรี่ ที่จะคล้ายกับส่วนกลางในเรื่องการตกแต่งดีไซน์ วัสดุ และเฟอร์นิเจอร์
นอกจากนี้เราจะได้พบกับครั้งแรกของการพัฒนาส่วนกลางจาก Relax สู่ Retreat การพักผ่อนสู่การฟื้นฟู เพื่อยกระดับเรื่องของ Mental Health กับพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบเพื่อสร้างบรรยากาศและความรู้สึกที่ผ่อนคลาย โดยจัดมาให้ทั้งหมด 3 โซน 4 ชั้นด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่ชั้น G ต้อนรับด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ Ripple Amphitheater ที่คอนเน็กไปยัง Harmonic Ripple Pavilion โดยจัดมุมนั่งเล่นพักผ่อนเอาไว้หลายรูปแบบ
เข้ามาข้างในจะเห็นว่ามีการแบ่งพื้นที่แต่ละโซนชัดเจน ตั้งแต่ Lobby ที่แยกเป็น 2 ส่วน คือฝั่งหนึ่งจะมี The Parlour Port โซนนั่งทำงาน ที่จัดมุมโต๊ะและเก้าอี้แบบจริงจังเอาไว้ให้เรียบร้อย
อีกทั้งยังมี The Social Dockyard จัดโซฟาไว้ให้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นนั่งอ่านหนังสือ
ที่อยู่ติดกันคือ The Floating Bar อีกหนึ่งมุมสำหรับวันที่อยากนั่งชิลๆ ซึ่งความจริงทั้งสามโซนนี้ก็เหมือน Co-Working เพื่อรองรับลูกบ้าน ตอบโจทย์ Work from Anywhere
เดินลึกเข้าไปอีกด้านหนึ่งจะเจอกับ Exclusive Lobby พื้นที่เปิดโล่งกว้างขวางขนาดใหญ่ ที่แบ่งออกเป็น Exclusive Entrance Hall เชื่อมต่อ Co-Exclusive Hall ซึ่งเป็นได้ทั้งจุดต้อนรับแขกและจุดพักผ่อนของลูกบ้าน
ถัดไปเป็น The Authentic Meeting ที่กั้นโซนแยกเอาไว้ทำเป็นห้องประชุม
แต่ที่ยกให้เป็นไฮไลต์ถูกใจกลุ่มพนักงานออฟฟิศ คือครั้งแรกของแบรนด์ไลฟ์ที่มี The Therapist Room จัดเก้าอี้นวดอัตโนมัติ โดยใช้สเปคที่ได้รับการยืนยันว่าสามารถผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ออฟฟิศซินโดรม และกายภาพเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี
จากนั้นไปต่อกันที่ชั้น 7 Private Ripple Garden พื้นที่สวนสีเขียวที่เปิดรับวิวมุมสูง ให้ความรีแลกซ์ที่แตกต่างไปอีกระดับ
Double Roof Top Facilities ที่ชั้น 27 - 28 โดยในชั้น 27 จะเป็นส่วนกลางที่โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่แบ่ง Activity ออกเป็น River Runway Pool, River Jacuzzi และ River Pier Pavilion ครบทั้งการออกกำลังกายและแช่น้ำเล่นผ่อนคลาย
สำหรับสายรักสุขภาพอยากออกกำลังกายแบบจริงจังก็มีห้อง Sky Fitness ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ Life x Technogym ร่วมมือกัน โดยได้ทางทีม Technogym เป็นผู้ออกแบบโซนนี้ รวมถึงการเลือกอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ ที่ครบทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์ร่างกายครบทุกสัดส่วน
หรือถ้าใครเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้วอยากพักผ่อนร่างกายและจิตใจมากกว่า ก็มีโซน Relaxing Terrace, Sky Pavilion, Sky Amphitheater และ The Tidal Garden สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ ได้สัมผัสสวนสีเขียวแบบใกล้ชิดท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่งดงาม
เดินบันไดขึ้นไปที่ชั้น 28 ระหว่างทางจะเจอกับ The Sky Private Seat จัดพื้นที่นั่งชมวิวแบบไล่สเต็ปไปกับบันไดที่ขึ้นสู่ชั้นบนเพื่อคอนเน็กไปยังอีกหนึ่งพื้นที่สีเขียวอย่าง Sky Auditorium Terrace
โดยชั้นนี้มีกิมมิกอยู่ที่การออกแบบตัวอาคาร ให้มีองศาเป็นมุมเฉียงสร้างความแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งจะเป็นห้อง Exclusive Artful Lounge และ Panoramic Amphitheater แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ตัวอาคารที่มีลูกเล่น แต่พื้นที่ภายในก็สร้างความยูนีคเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเป็นครั้งแรกที่พื้นที่ถูกดีไซน์ให้เป็นแบบเล่นระดับ ยิ่งกว่านั้นคือการได้มุมมองแบบ Panoramic 270 องศา
แต่!!! โครงการนี้จะ Complete ไม่ได้หากขาดหัวใจสำคัญ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของแบรนด์ Life ที่จะได้ดื่มด่ำกับสุนทรียภาพถึง ‘2 วิวแม่น้ำเจ้าพระยา’ พร้อม City View
เลือกได้ว่าจะชมวิวแม่น้ำและวิวเมือง ฝั่งไอคอนสยาม City Lighting ได้สีสันและบรรยากาศครึกครื้น หรือจะเลือกฝั่งเอเชียทีค Contemporary Mood ให้ความรู้สึกนิ่งเงียบสงบ หรือไม่ต้องเลือกอยากชมพร้อมกัน 2 วิวแม่น้ำ ให้มุมมองแบบ River Theater ก็สามารถไปชมที่โซน Exclusive Artful Lounge กันได้แบบเต็มอิ่ม
► BEYOND THE SPACE | พื้นที่ที่เป็นมากกว่าแค่ “ที่อยู่”
หากคิดว่าการเป็นครั้งแรกของแบรนด์ LIFE คงจบลงที่ส่วนกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกเลยว่ายังไม่ใช่ เพราะ “LIFE Charoennakhon-Sathorn” เป็นโครงการแรกที่ห้องพักอาศัยให้ขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าที่เคยมีมา
ด้วยห้องชุดดีไซน์ใหม่ New Simplex Layout Design ทั้งโครงการ พร้อมห้องชุดแบบ Simplex Extra High Ceiling เพดานสูง 3 เมตร รวมถึงได้ครัวดีไซน์พิเศษ และกระจก Full Height ยิ่งไปกว่านั้นคือนี่เป็นครั้งแรก ที่ห้องพักอาศัยจะได้วิวแม่น้ำแบบใกล้ชิดอีกด้วย!
นอกจากนี้และยังปรับให้ไม่มีห้องแบบสตูดิโอ โดยจะเริ่มที่ Type 1 Bedroom เป็นต้นไป ซึ่งโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์เพียงบางส่วน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยออกแบบได้อย่างอิสระ ซึ่งมีขนาดห้องให้เลือกหลากหลาย ดังนี้
1. 1 Bedroom ขนาด 29.50 ตารางเมตร |
2. 1 Bedroom ขนาด 31.50 ตารางเมตร |
3. 1 Bedroom ขนาด 35.0 ตารางเมตร |
4. 1 Bedroom Plus ขนาด 35.0 ตารางเมตร |
5. 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 42.0 ตารางเมตร |
6. 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 57.0 ตารางเมตร |
ก่อนจะพาไปชมห้องตัวอย่างขอแวะอธิบายแปลนห้องพักอาศัยซะเล็กน้อย โดยห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 โดยมียูนิตต่อชั้นประมาณ 29 ยูนิต ซึ่งจะเป็นชั้นเดียวกับที่มีส่วนกลางสวนสีเขียว
ถัดไปตั้งแต่ชั้น 8-24 จะเป็นส่วนของที่พักอาศัยทั้งหมด ซึ่งตั้งแต่ชั้นเมื่อกี้จนถึงชั้น 24 จะเป็นห้องแบบ Simplex ที่มีความสูงของเพดานอยู่ที่ 2.6 เมตร
ส่วนชั้น 25-26 เพิ่มความพิเศษด้วยทุกยูนิตของ 2 ชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ Simplex Extra High Ceiling ได้เพดานสูงถึง 3 เมตร
► 1 Bedroom ขนาด 31.50 ตารางเมตร
ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นแบบ Simplex ที่จะได้ Floor to Ceiling สูง 2.6 เมตร โดยส่วนแรกที่พบคือห้องครัว ที่นอกจากได้แบบครัวปิดแล้ว ยังมีความน่าสนใจตรงประตูบานเลื่อน 3 ตอน ไม่ได้ฟิกซ์ฝั่งจึงทำให้สามารถเลื่อนซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ ส่วนขนาดพื้นที่ก็กว้างประมาณหนึ่ง สามารถทำอาหารจริงจังได้เต็มที่
ซึ่งฝั่งหนึ่งโครงการบิวท์เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย ตัว Top เป็นหินสังเคราะห์ พร้อม Backsplash กรุกระเบื้องเซรามิกลายตาราง พื้นที่ด้านบนก็ไม่เสียเปล่าติดตั้งตู้เก็บของ ได้หน้าบานลายไม้เคลือบเมลามีนมาให้อย่างดี ยิ่งกว่านั้นคือได้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งเตาไฟฟ้าและ Hob & Hood จากแบรนด์ MEX
แต่ที่ประทับใจคือดีเทลที่โครงการ Combine ชุดครัว ให้มีฟังก์ชันเก็บกุญแจและตู้รองเท้า โดยที่ผู้ซื้อจะได้ไม่ต้องมากังวลว่าจะวางตู้รองเท้าไว้ตรงไหน อีกทั้งยังเป็นการประหยัดพื้นที่ได้เยอะทีเดียว
ตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำซึ่งมีจุดเด่นตรงได้ประตูแบบ Double Access Bathroom เชื่อมต่อกับห้องนอนอีกจุดหนึ่ง เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้อยู่อาศัยมากกว่าเดิม
เรื่องสุขภัณฑ์ก็ไม่ต้องห่วงครบครันพร้อมใช้งาน ทั้งอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของข้างใต้ เท่านั้นไม่พอยังบิวท์ที่วางของด้านหลังอ่างมาให้อีกด้วย ต่อเนื่องไปถึงได้กระจกเงา และโถสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งอาบน้ำก็ติดตั้ง Hand Shower และฉากกั้นแบบประตูกระจกมาให้เสร็จสรรพ
ถัดเข้าไปจะเป็น Area ของห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบเซต ทั้งโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง รวมถึงชั้นวางทีวี และโต๊ะกินข้าว ก็ยังมีสเปซปล่อยโล่งเหลือเฟือ
แต่ไฮไลท์ของห้อง Type นี้ต้องยกให้มุม Working Corner ติดกับช่องแสงบานใหญ่ ที่ได้ทั้งหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ ทำให้นั่งทำงานพร้อมรับวิวได้แบบ 180 องศา
ด้านระเบียงก็ถูกดีไซน์ให้หลบมุม ซึ่งมีข้อดีตรงที่จะช่วยให้เปิดรับวิวได้เคลียร์ที่สุด ทั้งฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
กลับมาดูที่ห้องนอนกันต่อ โดยออกแบบให้เป็นส่วนตัวขั้นสุดด้วยประตูบานทึบ ขณะเดียวกัน Layout ของห้องก็ดีไซน์ให้วางเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Extra เพิ่มเข้ามาคือมุมนั่งเล่นติดกระจก สามารถนั่งมองทิวทัศน์ภายนอกได้แบบเต็มสายตา
► 1 Bedroom Plus ขนาด 35.0 ตารางเมตร
ขยับขนาดไซส์ห้องใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ซึ่งเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับห้องครัวแบบปิด พร้อมเคาน์เตอร์ครัวที่คล้ายกับห้องแบบแรก
แต่ห้องครัว Type นี้จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า เพิ่มฟังก์ชันได้มากขึ้น ทำให้ฝั่งตรงข้ามชุดครัวสามารถวางตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าได้
ติดกันเป็นห้องน้ำที่นอกจากได้ประตูแบบ Double Access Bathroom คอนเน็กกับห้องนอน ยังเป็นครั้งแรกอีกด้วยที่ห้อง Type นี้ถูกออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ตรงกลาง
ส่วนพื้นที่ใช้สอยเองก็กว้างขวาง แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสะดวกในการใช้งาน พร้อมสุขภัณฑ์ที่ได้แบบจัดเต็มตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลย
เดินเข้ามาสู่ Living Room ที่จัดสรรพื้นที่ให้บิวท์ชั้นวางทีวี รวมถึงวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งข้างกันได้ หรือจะปรับเป็นโซฟาวางยาวขนาด 3 ที่นั่งแทนเลยก็ได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้อยู่อาศัย
ด้านในสุดเป็น Flexible Room โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ช่องแสงขนาดใหญ่ และได้กระจกแบบเข้ามุม ช่วยให้เห็นทัศนียภาพภายนอกในมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องนอน หรือห้องกินข้าวก็ดีไซน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ถัดไปคือห้องนอนที่จะเรียกว่าเป็น Master Bedroom ก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง วางเตียง 5 ฟุตแล้วก็ยังมีพื้นที่ให้เดินผ่านไปมาได้สบายๆ
อีกทั้งห้องนี้ยังอยู่ติดกับระเบียงที่ไม่ใช่แค่ได้สเปซของระเบียงขนาดใหญ่อย่างเดียว แต่การได้ช่องแสงไซส์นี้จะทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในได้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันก็มองออกไปเห็นวิวภายนอกได้สุดสายตา
เมื่อมองย้อนกลับไปจะเจออีกหนึ่งไฮไลต์นั่นก็คือสเปซ Walk-in Closet วางโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าที่สามารถบิวท์เป็นรูปตัว L สูงจรดเพดาน ช่วยให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะขึ้น คือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่คงถูกใจสายแฟชั่นกันไม่น้อยเลย
โครงการ LIFE เจริญนคร-สาทร นับเป็นการฉีกทุกกฎ และสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ให้แก่ LIFE ได้อย่างไร้ที่ติ สามารถตีความของชีวิตที่สมบูรณ์แบบออกมาได้อย่างสมดุล ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การพักผ่อน รวมถึงการสังสรรค์ ที่จะพาทุกคนไปรู้สึกกับคำว่า Enjoy Your ‘LIFE’ ได้ครบทุกมิติ
หากใครสนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ “ไลฟ์ เจริญนคร-สาทร” ที่ Sales Gallery กันได้เลย ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ซอยเจริญนคร 22 ด้านหลังโชว์รูมโตโยต้า แต่แนะนำว่าให้ลงทะเบียนกันก่อนเพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย โดยคลิกลงทะเบียนที่ลิงก์นี้เลย!! >>> https://apth.ly/dbdj
Livinginsider - Weekly Insight Report [29 Dec 2024-04 Jan 2025]
2025-01-09
Livinginsider - Weekly Insight Report [22-28 Dec 2024]
2025-01-02
Livinginsider - Weekly Insight Report [15-21 Dec 2024]
2024-12-23
Livinginsider - Weekly Insight Report [08-14 Dec 2024]
2024-12-15
Aspire อิสรภาพ สเตชั่น คอนโดหนึ่งเดียวบนถนนวังเดิม ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินเพียง 350 ม. พุ่งตรงสู่ CBD โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ตอบโจทย์คนวัยทำงาน
2024-12-13
ข้อมูลละเอียดดีครับ ขอบคุนสำหรับ ข้อมูลนะครับ
ดีมากเลยค่ะ น่าติดตามข้อมูล
ชอบมากเลยครับ บทความเเนวนี้ ไม่น่าเบื่อ
ภาพรวมเว็บน่าสนใจมากๆ มีหลากหลายเนื้อหาให้อ่านดีครับ
อ่านแล้วรู้สึกดี จะดีกว่านี้ถ้าโครงการลดราคาและให้ของฟรีด้วย อิอิ
ชอบเรื่องไอเดียแต่งบ้าน ได้ความหลากหลายดีกำลังวางแพลนจะซื้อบ้านเลย เอาเรื่องไอเดียมาอีกเยอะๆนะค่ะ